Upload
others
View
9
Download
0
Embed Size (px)
Citation preview
7-1
หน่วยที่7ทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิด
รองศาสตราจารย์ลาวัลย์หอนพรัตน์
7-2
แผนผังแนวคิดหน่วยที่7
7.1.1 ทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิดและการแก้ไข
ผู้กระทำผิดของต่างประเทศ
7.1.2 ทฤษฎีที่มุ่งต่อการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำ
ความผิด
7.2.1การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศไทย
7.2.2การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในต่างประเทศ
ทฤษฎีการแก้ไข
ผู้กระทำผิด
7.1 ความเป็นมาและ
ทฤษฎีการแก้ไข
ผู้กระทำผิด
7.2 การแก้ไขฟื้นฟู
ผู้กระทำผิดใน
ประเทศไทยและ
ต่างประเทศ
7-3
หน่วยที่7
ทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิด
เค้าโครงเนื้อหาตอนที่ 7.1ความเป็นมาและทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิด
7.1.1ทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิดและการแก้ไขผู้กระทำผิดของต่างประเทศ
7.1.2ทฤษฎีที่มุ่งต่อการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด
ตอนที่ 7.2การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศไทยและต่างประเทศ
7.2.1การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศไทย
7.2.2การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในต่างประเทศ
แนวคิด1. การใช้ทฤษฎีลงโทษโดยการแก้แคน้ทดแทนไม่ประสบความสำเรจ็ในการลดอาชญากรรม
จึงได้เกิดแนวคิดทบทวนที่จะแก้ไขผู้กระทำผิดขึ้นเป็นแนวคิดที่ให้โอกาสคนกลับตัวเป็น
คนดีและสามารถกลับเข้าสู่สังคมได้
2. การแก้ไขผู้กระทำผิดในประเทศไทยและต่างประเทศมีแนวคิดคล้ายคลึงกัน คือ การ
แก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดโดยเจ้าพนักงานของรัฐ/หน่วยงานของรัฐและการแก้ไขฟื้นฟูโดย
ให้ประชาชนมีส่วนร่วม
วัตถุประสงค์เมื่อศึกษาหน่วยที่7จบแล้วนักศึกษาสามารถ
1. อธิบายและวิเคราะห์ถึงเหตุผลความเป็นมาและทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิดได้
2. อธิบายและวิเคราะห์การใช้วิธีการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศไทยและต่างประเทศ
ได้
กิจกรรม1. กิจกรรมการเรียน
1)ศึกษาแผนผังแนวคิดหน่วยที่7
2)อ่านแนวการศึกษาประจำหน่วยที่7
3)ทำแบบประเมินผลตนเองก่อนเรียนหน่วยที่7
7-4
4)ศึกษาเนื้อหาสาระจาก
- แนวการศึกษาหน่วยที่7
- หนังสือประกอบการสอนชุดกฎหมายอาญาและอาชญาวิทยาชั้นสูง
5)ปฏิบัติกิจกรรมในแต่ละเรื่อง
6)ตรวจสอบคำตอบของกิจกรรมแต่ละกิจกรรมจากแนวตอบ
7)ทำแบบประเมินผลตนเองหลังเรียนหน่วยที่7
2.งานที่กำหนดให้ทำ
1)ทำแบบฝึกหัดทุกข้อที่กำหนดให้ทำ
2)อ่านเอกสารเพิ่มเติมจากแหล่งวิทยาการ
แหล่งวิทยาการ1. สื่อการศึกษา
1)แนวการศึกษาหน่วยที่7
2)หนังสือประกอบการสอนชุดกฎหมายอาญาและอาชญาวิทยาชั้นสูง
- อภิรตัน์เพ็ชรศริิ(2552)ทฤษฎีอาญาพมิพค์รัง้ที่2กรงุเทพมหานครสำนกัพมิพ ์
วิญญูชน
- เอกสารการสอนชุดวิชาการบริหารงานและกระบวนการยุติธรรมมหาวิทยาลัย
สุโขทัยธรรมาธิราช
- บทความกฎหมายในส่วนการป้องกัน โดย หลวงจักรปราณี ศรีศิลวิสุทธิ์
ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ศาลยุติธรรม(www.library.coj.go.th)
2. หนังสือตามที่อ้างไว้ในบรรณานุกรม
การประเมินผลการเรียน1. ประเมินจากการสัมมนาเสริมและงานที่กำหนดให้ทำในแผนกิจกรรม
2. ประเมินจากการสอบไล่ประจำภาคการศึกษา
7-5
แบบประเมินผลตนเองก่อนเรียน
วัตถุประสงค์ เพื่อประเมินความรู้เดิมของนักศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง“ทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิด”
คำแนะนำ อ่านคำถามแล้วเขียนคำตอบลงในช่องว่างนักศึกษามีเวลาทำแบบประเมินชุดนี้30นาที
1. ทฤษฎีใดที่มุ่งเน้นการลงโทษผู้กระทำความผิดให้กลับตัวเป็นคนดี
2. ทฤษฎีการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดมีกี่ทฤษฎีอะไรบ้าง
7-6
3. ประเทศฝรั่งเศสกำหนดวิธีการเพื่อความปลอดภัยไว้อย่างไร
4. การที่กฎหมายกำหนดให้อำนาจศาลสั่งรอการลงอาญาหรือรอการลงโทษ เป็นการแก้ไขผู้กระทำผิด
อย่างไร
7-7
บทนำ
ทฤษฎีทางอาญากล่าวว่าการลงโทษหรือการใช้โทษทางอาญาต้องมีข้อจำกัดไม่ควรที่จะนำกฎหมาย
อาญามาใช้เพื่อลงโทษพฤติกรรมที่ปราศจากภัย
เป็นที่ยอมรับกันในสาขาวิชากฎหมายอาญาแล้วว่าในประมวลกฎหมายอาญาใหม่นั้นหากจะใช้โทษ
และทฤษฎีใดก็ต้องระบุไว้ให้ชัดเจนว่าร่างกฎหมายนั้นยึดถือเอาทฤษฎีใดเป็นหลัก ซึ่งโดยทั่วไปจะอ้าง
จดุประสงค์อนัสำคญัและเปน็ที่ยอมรบัคอืการให้มนษุย์อยู่รว่มกนัโดยสนัตสิขุและปลอดภยัจากอาชญากรรม
ทั้งปวงตัวอย่างร่างประมวลกฎหมายอาญาสหรัฐอเมริกาในมาตรา11A2ซึ่งบัญญัติไว้ดังนี้
“วตัถปุระสงค์ของประมวลกฎหมายนี้ก็เพือ่ที่จะเสรมิสรา้งความยตุธิรรมขึน้ในระบบสหรฐัทัง้มวล
เพือ่ที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้มีความอบอุน่ใจในการรกัษาไว้ซึง่ชวีติรา่งกายทรพัยส์นิความสมัพนัธ์
ซึ่งกันและกันและผลประโยชน์อื่นๆ
ประมวลกฎหมายนี้มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมและคงไว้ซึ่งระบบแห่งคุณธรรมของมหาชนและการปฏิบัติ
โต้ตอบของมหาชนโดยการลงโทษทัณฑ์อันเหมาะสม
ประมวลกฎหมายนี้มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความปลอดภัยและความมั่นคงของบุคคลทั้งปวง โดยการ
ป้องปรามโดยวิธีแจ้งต่อสังคมให้เห็นถึงความผิดต่างๆว่ามีอะไรบ้างและโทษทัณฑ์ที่ได้กำหนดไว้โดยตัวบท
กฎหมายมีอยู่อย่างไรและเมื่อวิธีการนี้ใช้ไม่ได้ผลก็จะใช้วิธีแก้ไขผู้กระทำความผิดหรือการทำให้ผู้กระทำ
ความผิดนั้นไม่สามารถที่จะกระทำผิดต่อไปได้โดยวิธีการอันสมควร”
วิธีการและทฤษฎีที่จะทำให้จุดมุ่งหมายของประมวลกฎหมายอาญาประสบผลสำเร็จได้นั้นพอที่จะ
แบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆได้3ประเภทคือการแก้แค้นตอบแทนการขู่กำราบ(ป้องปราม)และการแก้ไขฟื้นฟู
ผู้กระทำผิดหรือตัดโอกาสหรือจำกัดความสามารถในการกระทำความผิด1
1อภิรัตน์เพ็ชรศิริทฤษฎีอาญากรุงเทพมหานครสำนักพิมพ์วิญญูชนหน้า82-83
7-8
ตอนที่7.1
ความเป็นมาและทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิด
โปรดอ่านแผนการสอนประจำตอนที่7.1แล้วจึงศึกษาสาระสังเขปพร้อมปฏิบัติกิจกรรมในแต่ละเรื่อง
หัวเรื่องเรื่องที่7.1.1 ทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิดและการแก้ไขผู้กระทำผิดของต่างประเทศ
เรื่องที่7.1.2 ทฤษฎีที่มุ่งต่อการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด
แนวคิด1. การแก้ไขหรือการป้องกันอาชญากรรมมีมาแต่อดีต เนื่องจากนักอาชญาวิทยา นัก-
สังคมศาสตร์และนักวิชาการแขนงต่างๆเห็นว่าการลงโทษเพื่อการแก้ไขไม่ได้ผล
2. ทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิดมี 2 ทฤษฎี คือ ทฤษฎีการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดโดย
เจ้าพนักงานและทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิดโดยประชาชนและชุมชนร่วมกับเจ้าพนักงาน
วัตถุประสงค์เมื่อศึกษาตอนที่7.1จบแล้วนักศึกษาสามารถ
1. อธิบายและวินิจฉัยความเป็นมาของทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิดได้
2. อธิบายและวิเคราะห์หลักทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิดได้
7-9
เรื่องที่7.1.1 ทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิดและการแก้ไขผู้กระทำผิด
ของต่างประเทศ
สาระสังเขปทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิดมิได้เป็นทฤษฎีใหม่ แต่เป็นทฤษฎีที่เคยใช้อยู่ในศาสนาคริสต์ตั้งแต่
โบราณกาลเช่นการไถ่บาปหรือการสารภาพบาปเพื่อให้ผู้กระทำผิดมีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่
ปัจจุบันทฤษฎีนี้เป็นทฤษฎีที่จำเป็นทฤษฎีหนึ่งศาสตราจารย์เอเลนกล่าวว่าวิธีการทั้งหลายที่จะนำ
มาใช้ปฏิบัติต่อผู้ต้องโทษนี้จะต้องมีสภาพเป็นตัวบำบัดตัดโอกาสหรือจำกัดความสามารถในการกระทำผิด
วิธีการเหล่านี้จะต้องเป็นตัวกำหนดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ต้องโทษเพื่อความสุขความพึง
พอใจของผู้นั้นและเพื่อป้องกันสังคมจากอาชญากรรมอันจะพึงมีขึ้น2
กฎหมายอาญามีเงื่อนไขในการกำหนดโทษอยู่ 2ประเภทคือประเภทแรกเป็นเงื่อนไขตามทฤษฎี
แก้แค้นทดแทนและประเภทที่ 2 เป็นเงื่อนไขที่ว่าด้วยการแก้ไขผู้กระทำความผิดให้กลับตัวเป็นคนดี โดย
บำบัดตัดโอกาสหรือจำกัดความสามารถในการกระทำผิด
สำนักโปซิทิฟ (POSITIVESCHOOLOFCRIMINOLOGY) ซึ่งเรื่องเกี่ยวกับปัจจัย กล่าวคือ
การกระทำของมนุษย์ถูกกำหนดจากปัจจัยต่างๆมนุษย์ไม่สามารถเลือกกระทำได้อย่างอิสระ แต่ถูกกดดัน
หล่อหลอมจากสิ่งแวดล้อมและปัจจัยต่างๆ จนมีบุคลิกภาพที่บกพร่องและหันไปสู่การกระทำความผิด
การกระทำความผิดเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การลงโทษจึง
ไม่ควรมุ่งเน้นที่การกระทำความผิดเป็นหลัก แต่ควรพิจารณาจากสาเหตุที่ทำให้เกิดการกระทำความผิด
และการแก้ไขไปที่สาเหตุของการกระทำความผิดนั้นๆ
การลงโทษเพื่อแก้ไขฟื้นฟูการกระทำความผิด เป็นแนวคิดที่ให้โอกาสคนกลับตัว จึงเน้นที่ตัว
ผู้กระทำความผิดมากกว่าการกระทำความผิด เช่นความสามารถของผู้กระทำความผิดที่จะกลับตัวการให้
ผู้กระทำผิดทดลองกลับเข้าสู่สังคมถ้าเป็นการกระทำความผิดโดยพลั้งพลาดไม่ได้กระทำความผิดร้ายแรง
หรือมีความโหดร้ายก็ใช้มาตรการเลี่ยงโทษจำคุกเช่นการรอการลงอาญาโดยมีการคุมประพฤติ
การแกไ้ขผู้กระทำความผดิในปจัจบุนัเปน็ที่ยอมรบักนัในวงการราชทณัฑ์โดยทัว่ไปแต่ยงัมีอปุสรรค
หลายประการคือ
1) ผู้กระทำความผิดได้สูญเสียบุคลิกภาพไปแล้ว โดยถูกหล่อหลอมและขัดเกลามาเป็น
เวลานาน
2) ขัดกับความรู้สึกของคนในสังคมว่าผู้กระทำความผิดไม่ควรได้มีการปฏิบัติที่ดีกว่า
คนทั่วไป
2อภิรัตน์เพ็ชรศิริทฤษฎีอาญากรุงเทพมหานครสำนักพิมพ์วิญญูชนหน้า92
7-10
3) การแก้ไขฟื้นฟูเหมาะสำหรับผู้กระทำความผิดบางประเภทเท่านั้นเช่นทำผิดครั้งแรก
4) การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดสามารถทำได้ในขณะที่อยู่ในเรือนจำเท่านั้น
5) ผู้กระทำผิดเป็นผู้มีมลทินเมื่อกลับเข้าสังคมมักจะไม่ได้รับการยอมรับ
(โปรดอ่านเนื้อหาสาระโดยละเอียดใน อภิรัตน์ เพ็ชรศิริ ทฤษฎีอาญา กรุงเทพมหานคร
สำนักพิมพ์วิญญูชนและเอกสารการสอนชุดวิชาการบริหารงานและกระบวนการยุติธรรมมหาวิทยาลัย
สุโขทัยธรรมาธิราช)
กิจกรรม7.1.1
การใช้ทฤษฎีการแก้ไขฟื้นฟูปัจจุบันหน่วยงานใดเป็นผู้ดำเนินการ
บันทึกคำตอบกิจกรรม7.1.1
(โปรดตรวจคำตอบจากแนวตอบในแนวการศึกษาหน่วยที่7ตอนที่7.1กิจกรรม7.1.1)
7-11
เรื่องที่7.1.2ทฤษฎีที่มุ่งต่อการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิด
สาระสังเขปผู้กระทำผิดมองความยุติธรรมทางอาญา
1) ไม่เท่าเทียมกันระหว่างครอบครัวคนจนกับครอบครัวคนรวย
2) เป็นการมุ่งใช้ความยุติธรรมทางอาญาที่ไม่ได้คำนึงถึงหลักความยุติธรรมทางสังคม
ดังนั้นการสร้างสังคมที่เป็นธรรมและยุติธรรมควรให้การศึกษาการนันทนาการการหางานและ
การสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง การสร้างสังคมที่เป็นธรรมยังยอมรับในหลักการให้ความช่วยเหลือ และ
การสงเคราะห์แก่ผู้ใหญ่และประเด็นที่กระทำผิด3ดังนั้นจึงเกิดการปฏิรูปการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิด
ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยทฤษฎีจิตวิทยาของซิกมันด์ฟรอยด์ (SigmundFreud) เสนอว่า อาชญากรรมไม่ใช่
การกระทำโดยเจตนาฝ่าฝืนบรรทัดฐานของสังคมเสมอไป แต่อาจเป็นปฏิกิริยาสนองตอบโดยไร้สำนึกต่อ
ปัญหาส่วนบุคคลผู้กระทำความผิดอาจเป็นคนเจ็บป่วยมากกว่าจะเป็นคนชั่วร้ายการฝ่าฝืนกฎหมายน่าจะ
เป็นการเจ็บป่วยมากกว่าการเจตนากระทำความผิดอย่างแท้จริง4
แนวคิดต่างๆส่วนใหญ่เชื่อว่าอาชญากรรมมิใช่เป็นการกระทำโดยเจตนาการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด
ควรเน้นที่การแก้ไขฟื้นฟูมากกว่าการลงโทษและต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพเฉพาะทางมาแก้ไขปัญหา
ดังกล่าวการที่เน้นที่การแก้ไขฟื้นฟูก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง2ประการคือศาลมีคำพิพากษาไม่แน่นอน
ตายตัวและการแบ่งความรับผิดชอบระหว่างบุคคลต่างๆที่จะต้องการตัดสินใจเกี่ยวกับผู้กระทำความผิด
ก่อนการปฏิรูปครั้งที่ 2 นี้ ศาลเป็นผู้กำหนดโทษตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย ถ้าศาลจะลงโทษ
จำคุกศาลก็จะกำหนดระยะเวลาจำคุกไว้ตายตัวแน่นอนแต่เมื่อมีการปฏิรูปการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิด
เปลี่ยนไปกฎหมายยอมให้ศาลรอการกำหนดโทษได้จนกว่าจะมีการทำรายงานประมวลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ
จำเลยพร้อมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะต่อศาลพนักงานคุมประพฤติจิตแพทย์และคนอื่นๆจึงเป็นที่
ปรึกษาของศาล
ปัจจุบันการลงโทษต่อผู้กระทำผิดเป็นรายบุคคลเพื่อแก้ไขฟื้นฟูให้เป็นคนดี อาจกระทำเป็นราย
บุคคลหรือรายกลุ่มโดยยึดหลัก
1) การลงโทษต้องเหมาะสมกับบุคคล
2) เน้นการวิเคราะห์หาสาเหตุของการกระทำผิด
3) เน้นการแก้ไขที่สาเหตุ
4) แก้ไขถูกต้องผู้กระทำจะไม่กลับมากระทำความผิดอีก
5) เน้นแก้ไขผู้กระทำกลับเป็นคนดี
3อ่านเนื้อหาสาระในหนังสือยุติธรรมชุมชนหน้า75-814 เอกสารการสอนชุดวิชาการบริหารงานและกระบวนการยุติธรรมมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
7-12
ทฤษฎีที่มุ่งต่อการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดมี2ทฤษฎีคือ
1. ทฤษฎีแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดโดยเจ้าพนักงาน(RehabilitationByTheOfficialTheory)เป็น
การปฏิรูปการลงโทษเพื่อแก้แค้นและทดแทนมาเป็นการลงโทษแบบมีมนุษยธรรมและให้การลงโทษจำคุก
แทนการลงโทษเนรเทศประหารชวีติหรอืการทรมานรา่งกายอนัเปน็แนวคดิและทฤษฎีของสำนกัอาชญาวทิยา
และทัณฑวิทยาสำนักคลาสสิก และต่อมาในสมัยสำนักนีโอ-คลาสสิก มีการคำนึงถึงเหตุยกเว้นความผิด
เหตุยกเวน้โทษและเหตุลดหยอ่นโทษได้มีการพฒันาระบบคมุประพฤติและระบบพกัการลงโทษอยา่งไรกต็าม
วิธีการนี้ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร อาชญากรรมไม่ลดลง จึงมีการปฏิรูปครั้งที่ 2 ซึ่งมีแนวคิดมาจากทฤษฎี
จิตวิทยา
ทฤษฎีจิตวิทยาของซิกมันด์ฟรอยด์ (SigmundFreud) และสังคมศาสตร์แขนงต่างๆตัวอย่าง
ทฤษฎีของฟรอยด์เสนอว่าอาชญากรรมไม่ใช่การกระทำโดยเจตนาฝ่าฝืนบรรทัดฐานของสังคมเสมอไปแต่
อาจเป็นปฏิกิริยาสนองตอบโดยไร้สำนึกต่อปัญหาส่วนบุคคลผู้กระทำความผิดอาจเป็นคนเจ็บป่วยมากกว่า
จะเป็นคนชั่วร้ายการฝ่าฝืนกฎหมายน่าจะเป็นการเจ็บป่วยมากกว่าการเจตนากระทำความผิดอย่างแจ้งชัด
ในขณะเดียวกันสังคมศาสตร์สาขาต่างๆชี้ให้เห็นอิทธิพลของกระบวนการเรียนรู้ชี้ให้เห็นอิทธิพล
ของวฒันธรรมยอ่ยและชี้ให้เหน็สภาพของชนชัน้ตลอดจนเชือ้ชาติวา่เปน็ทีม่าของการไม่ปฏบิตัิตามกฎหมาย
มากกว่าจงใจกระทำความผิดผลก็คือมีแนวโน้มที่จะมองผู้กระทำความผิดว่าเป็นผู้ถูกเอาเปรียบในสังคม
หรือเป็นทางสติปัญญาซึ่งมีสาเหตุมาจากความบกพร่องทางกายและทางจิตใจ
แนวความคิดดังกล่าวนี้ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่ามีที่มาจากการเกิดขึ้นของสำนักอาชญาวิทยาและ
ทัณฑวิทยาสำนักโปซิติฟซึ่งมีซีซาร์ลอมโบรโซ(CesareLombroso,1835-1909)เป็นผู้นำและของสำนัก
ป้องกันสังคมซึ่งมีมาร์คแอนเซล(MarcAncel)เป็นผู้นำเนื่องจากทั้ง2สำนักนี้เห็นว่าอาชญากรรมมิใช่
เป็นการกระทำโดยเจตนา การปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิดจึงควรเน้นที่การแก้ไขฟื้นฟูมากกว่าการลงโทษ
และต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพเฉพาะทางมาแก้ไขปัญหาดังกล่าวการที่เน้นการแก้ไขฟื้นฟูก่อให้เกิดการ
เปลี่ยนแปลง2ประการคือศาลมีคำพิพากษาไม่แน่นอนตายตัว(Indeterminatesentence)และการแบ่ง
ความรับผิดระหว่างบุคคลต่างๆที่จะต้องตัดสินใจเกี่ยวกับผู้กระทำความผิด5
ก่อนการปฏิรูปการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิดครั้งที่ 2 นี้ ชะตาชีวิตของผู้กระทำความผิดจะถูก
กำหนดทันทีที่พบว่าได้กระทำความผิดตามฟ้องศาลเป็นผู้กำหนดโทษดังที่บัญญัติไว้ในกฎหมายถ้าศาลจะ
ลงโทษจำคกุศาลก็จะกำหนดระยะเวลาจำคกุไว้ตายตวัแนน่อนและยงัอาจกำหนดเรอืนจำที่จะใช้ในการลงโทษ
จำคุกด้วย เช่น ให้ขังเดี่ยวหรือให้ทำงานหนักแต่เมื่อมีการปฏิรูปการปฏิบัติต่อผู้กระทำความผิดครั้งที่ 2
แล้วเหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ก็เปลี่ยนแปลงไปกฎหมายยอมให้ศาลรอการกำหนดโทษได้จนกว่าจะมีการทำ
รายงานประมวลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจำเลยพร้อมทั้งความเห็นและข้อเสนอแนะต่อศาลพนักงานคุมประพฤติ
จิตแพทย์ และคนอื่นๆกลายมาเป็นที่ปรึกษาของศาลความรับผิดชอบในการตัดสินใจจึงแบ่งแยกออกไป
ไม่เฉพาะระหว่างบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดกับศาลเท่านั้น แต่ยังแบ่งไปให้บุคลากรของหน่วยงานราชทัณฑ์
5 เอกสารการสอนชุดวิชาการบริหารงานและกระบวนการยุติธรรมมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
7-13
ทุกระดับด้วย คำพิพากษากำหนดโทษที่ไม่ตายตัวแน่นอนได้ถูกนำมาใช้เพื่อให้หน่วยงานราชทัณฑ์เป็น
ผู้กำหนดชะตาชีวิตของผู้กระทำความผิดโดยผ่านกระบวนการจำแนกประเภทและแก้ไขฟื้นฟ6ู
ในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดดังกล่าวจะต้องใช้การให้คำปรึกษาแนะนำให้การเยียวยาทางจิตการ
สอนวิชาการตลอดจนการฝึกอบรมวิชาชีพแก่ผู้กระทำความผิด
2. ทฤษฎีการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดโดยประชาชนและชุมชนร่วมกับเจ้าพนักงาน (Rein-
tegrationTheory) แนวคิดคือกระบวนการยุติธรรมเป็นระบบงานเกี่ยวกับชุมชน จึงต้องทำงานร่วมกัน
ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอื่นๆ ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และการแก้ไขฟื้นฟู
ผู้กระทำความผดิอกีแนวคดิหนึง่คอืในระบอบประชาธปิไตยประชาชนเปน็เจา้ของอำนาจอธปิไตยประชาชน
จึงควรมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆของรัฐ เช่นประชาชนและชุมชนที่ผู้กระทำความผิดที่พ้นโทษไปแล้วจะ
กลับไปอยู่ด้วยจะต้องมีส่วนร่วมในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำความผิดดังกล่าวให้มีงานทำให้อยู่ในสังคมได้
(โปรดอ่านเนื้อหาสาระโดยละเอียดใน เอกสารการสอนชุดวิชาการบริหารงานและกระบวนการ
ยุติธรรมมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)
กิจกรรม7.1.2
ทฤษฎีจิตวิทยาของซิกมันด์ฟรอยด์มองอาชญากรว่าเป็นบุคคลประเภทใด
บันทึกคำตอบกิจกรรม7.1.2
(โปรดตรวจคำตอบจากแนวตอบในแนวการศึกษาหน่วยที่7ตอนที่7.1กิจกรรม7.1.2)
6 เอกสารการสอนชุดวิชาการบริหารงานและกระบวนการยุติธรรมมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
7-14
ตอนที่7.2
การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศไทยและต่างประเทศ
โปรดอ่านแผนการสอนประจำตอนที่7.2แล้วจึงศึกษาสาระสังเขปพร้อมปฏิบัติกิจกรรมในแต่ละเรื่อง
หัวเรื่องเรื่องที่7.2.1 การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศไทย
เรื่องที่7.2.2 การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในต่างประเทศ
แนวคิด1. ประเทศไทยมีการใช้วิธีการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดมาตั้งแต่กฎหมายลักษณะอาญา
ร.ศ.127ปัจจุบันใช้ทฤษฎีแก้ไขฟื้นฟูทั้ง2ทฤษฎีคือโดยเจ้าพนักงานและโดยประชาชน
มีส่วนร่วม
2. ประเทศต่างๆก็ใช้ทฤษฎีแก้ไขฟื้นฟูคล้ายประเทศไทยซึ่งที่จะกล่าวถึงคือประเทศญี่ปุ่น
ประเทศฝรั่งเศสและประเทศอังกฤษ
วัตถุประสงค์เมื่อศึกษาตอนที่7.2จบแล้วนักศึกษาสามารถ
1. อธิบายวินิจฉัยและวิเคราะห์การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศไทยได้
2. อธิบายวินิจฉัยและวิเคราะห์การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในต่างประเทศได้
7-15
เรื่องที่7.2.1การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศไทย
สาระสังเขป
วิวัฒนาการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศไทยกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ. 127 กำหนดโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดไว้ 6 สถาน อันได้แก่
การประหารชีวิตจำคุกปรับการให้อยู่ภายในเขตที่อันมีกำหนดการริบทรัพย์และการเรียกประกันทัณฑ์บน
จากผู้ที่แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อผู้อื่นนั้น
กฎหมายวางวิธีปฏิบัติต่อบุคคลบางจำพวกเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันมิให้กระทำความผิด หรือฝึก
และอบรมให้กลับตัวเป็นคนดีคือ
1. กฎหมายเกี่ยวกับเด็กและเยาวชนเด็กอายุระหว่าง7ปีถึง14ปีศาลอาจดำเนินการ
- ว่ากล่าวตักเตือนเด็กหรือบิดามารดาผู้ปกครองเด็กแล้วปล่อยตัวไป
- อ้างข้อกำหนดให้บิดามารดาหรือผู้ปกครองระวังเด็กนั้นมิให้ก่อเหตุร้ายขึ้นตลอดเวลาที่
ศาลกำหนดโดยศาลจะสั่งคุมประพฤติหรือใช้มาตรการดังต่อไปนี้
- สั่งคุมประพฤติเด็ก
- ส่งตัวเด็กไปยังโรงเรียนหรือสถานฝึกและอบรมก็ได้
เด็กอายุ 14 ปี ถึง 17 ปี ศาลจะดำเนินการเหมือนเด็กอายุ 7 ปี ถึง 14 ปี ก็ได้ หรือดำเนินการ
ต่อไปนี้
- ลงโทษตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญาโดยลดอัตราโทษลงกึ่งหนึ่งก็ได้
- เปลี่ยนโทษจำคุกหรือกักกันเป็นที่กักขังที่ไม่ใช่เรือนจำ
- วางเงื่อนไขในการคุมประพฤติ
2. กฎหมายวางวิธีรอการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษบุคคลที่ศาลพิจารณาว่าได้กระทำผิดแล้ว
ปล่อยตัวไป โดยจะกำหนดเงื่อนไขในการคุมประพฤติบุคคลนั้นๆด้วยหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันมิให้
บุคคลนั้นกระทำความผิดขึ้นภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด
3. กฎหมายกกักนัผู้มีสนัดานเปน็ผู้รา้ยหรอืผู้กระทำผดิหลายครัง้เพือ่ปอ้งกนัมิให้กอ่เหตุรา้ยขึน้อกี
4. กฎหมายผู้พ้นโทษหรือบุคคลที่ขาดความรู้ที่จะประกอบอาชีพสงเคราะห์
(โปรดอ่านเนื้อหาสาระโดยละเอียดในบทความกฎหมายในส่วนการป้องกัน โดยหลวงจักรปราณี
ศรีศิลวิสุทธิ์ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ศาลยุติธรรม(www.library.coj.go.th))
7-16
กิจกรรม7.2.1
กฎหมายลักษณะอาญาร.ศ.127กำหนดโทษไว้อย่างไร
บันทึกคำตอบกิจกรรม7.2.1
(โปรดตรวจคำตอบจากแนวตอบในแนวการศึกษาหน่วยที่7ตอนที่7.2กิจกรรม7.2.1)
7-17
เรื่องที่7.2.2การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในต่างประเทศ
สาระสังเขปทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำความผิดนี้ มีผู้นำมาใช้อย่างแพร่หลายซึ่งอาจทำหลายทาง เช่น โดยการ
บัญญัติเงื่อนไขของการกำหนดโทษเอาไว้ในประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยการแก้ไขผู้กระทำผิดให้กลับตัว
เป็นคนดีโดยบำบัดตัดโอกาสหรือจำกัดความสามารถในการกระทำความผิดเช่น
ประเทศญี่ปุ่นในมาตรา47กำหนดเงื่อนไขชัดเจนว่า
“(1)โทษที่จะลงนั้นจะต้องได้สัดส่วนกับความรับผิดของผู้กระทำผิด
(2)โทษที่จะลงนั้นจะต้องเพื่อจุดประสงค์ที่จะป้องกันไม่ให้มีการกระทำผิดเกิดขึ้น และแก้ไข
ผู้กระทำผิดให้กลับตัวเป็นคนดี โดยดูจากสภาวะแห่งอายุบุคลิกภาพตำแหน่งหน้าที่ และสภาวะแวดล้อม
ของผู้กระทำผิดมูลเหตุชักจูงให้กระทำผิดผลเสียอันเกิดขึ้นแก่สังคมจากการกระทำผิดนั้น และความรู้สึก
ผิดชอบของผู้กระทำผิด”
ในร่างประมวลกฎหมายอาญาเยอรมันมีบทบัญญัติคล้ายคลึงกับร่างประมวลกฎหมายอาญาญี่ปุ่น
กล่าวคือเงื่อนไขของการกำหนดโทษบัญญัติไว้เพื่อวางแนวทางให้ศาลรู้ว่าจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้างในการที่
จะกำหนดโทษขั้นสูงต่ำแตกต่างกันในความผิดฐานเดียวกันเพราะในทฤษฎีกฎหมายอาญาปัจจุบันโทษทัณฑ์
ที่จะลงแก่ผู้กระทำผิดจะต้องเหมาะสมแก่ตัวผู้กระทำความผิดมากเสียกว่าที่จะให้โทษนั้นเหมาะสมกับความ
ผิดที่ได้กระทำนอกจากประมวลกฎหมายอาญาเยอรมันและญี่ปุ่นแล้วประมวลกฎหมายอาญาสหรัฐอเมริกา
ก็ใช้หลักเช่นเดียวกัน
(โปรดอ่านเนื้อหาสาระโดยละเอียดในอภิรัตน์ เพ็ชรศิริ (2552)ทฤษฎีอาญากรุงเทพมหานคร
สำนักพิมพ์วิญญูชน)
การมีสว่นรว่มของประชาชนและชมุชนในการปอ้งกนัอาชญากรรมและการแกไ้ขฟืน้ฟูผู้กระทำ
ผิดในประเทศญี่ปุ่นการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันอาชญากรรมการดำเนินการทั้งอาสาสมัครของหน่วยงาน
รัฐและไม่ได้เป็นอาสาสมัครแต่มาช่วยงานสังคมเป็นครั้งคราว
องค์กรภาคประชาชนที่มีบทบาทในการป้องกันอาชญากรรมได้แก่
1. สมาคมป้องกันอาชญากรรม เป็นสมาคมที่มีเครือข่ายดำเนินงานทั่วประเทศตั้งแต่ระดับเมือง
ถึงระดับหมู่บ้านมีการประสานงานกับสถานีตำรวจสมาชิกของสมาคมก็คือประชาชนธรรมดานั่นเองสมาชิก
มีหน้าที่ร่วมกิจกรรมของตำรวจด้วยการปฏิบัติงานการให้กำลังใจและการให้ความร่วมมือเช่นการรายงาน
เหตุอาชญากรรมไปยังตำรวจเป็นต้นสมาคมป้องกันอาชญากรรมดำเนินการในรูปแบบต่างๆเช่น
7-18
1) สหภาพผู้ประกอบอาชีพเพื่อการป้องกันอาชญากรรม
2) คณะกรรมการตดิตอ่ระหวา่งโรงเรยีนกบัตำรวจให้คำแนะนำเยาวชนปอ้งกนัไม่ให้กระทำผดิ
2. สมาคมเพื่อความปลอดภัยด้านจราจร เป็นองค์กรอาสาสมัครป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากการ
จราจรมีการดำเนินงานอย่างกว้างขวางทั้งในระดับตำบลอำเภอและระดับชาติสมาชิกประกอบด้วยผู้ขับขี่
เจ้าของรถผู้บริหารธุรกิจขนส่งและประชาชนอาสาสมัครสมาชิกมีหน้าที่รณรงค์ด้านความปลอดภัยจราจร
โดยให้ความรู้ด้านความปลอดภัยจราจรฟื้นฟูความรู้ให้กับผู้ขับขี่และอื่นๆนอกจากนี้ยังมีกลุ่มอาสาสมัคร
อื่นๆที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการป้องกันอุบัติเหตุจราจร
3. สมาคมอาสาสมัครคุมประพฤติ แม้ว่าภารกิจสำคัญของอาสาสมัครคุมประพฤติ คือ การมี
ส่วนร่วมในการแก้ไขฟื้นฟูและสงเคราะห์ผู้กระทำผิด แต่อาสาสมัครคุมประพฤติก็ยังทำหน้าที่เกี่ยวข้อง
กับการป้องกันอาชญากรรมอีกด้วย อาสาสมัครคุมประพฤติในประเทศญี่ปุ่นจึงทำงานร่วมกับพนักงานคุม
ประพฤติกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานต่างๆทั้งโรงเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจและองค์กรอาสาสมัครอื่นๆ
อย่างใกล้ชิดในการจัดกิจกรรมต่างๆในการป้องกันอาชญากรรมทั่วประเทศเพื่อกระตุ้นเตือนให้สาธารณะ
เห็นความสำคัญและความจำเป็นในการป้องกันอาชญากรรมเรียกกิจกรรมนี้ว่า“การเคลื่อนไหวเพื่อสังคมที่
แจ่มใส”(MovementforBrighterSociety)ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆได้แก่
1) การจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ในที่สาธารณะเช่นการเดินพาเหรดรณรงค์การจัดแสดง
ดนตรี การจัดนิทรรศการการจำหน่ายสินค้าเพื่อการรณรงค์ การเสนอบทความในหนังสือพิมพ์ การเสนอ
ข้อความประชาสัมพันธ์หรือรณรงค์ในป้ายโฆษณาในเขตดาวน์ทาวน์หรือสนามกีฬาเป็นต้น
2) จัดการเสวนาในเวทีสาธารณะเกี่ยวกับปัญหาการกระทำผิดของเด็ก
3) จัดการประชุมหรืออภิปรายในกลุ่มเพื่อนบ้าน
4) สนับสนุนการจัดกิจกรรมในชุมชน ได้แก่ กิจกรรมการเลี้ยงดูเด็กสำหรับแม่ที่ยังเยาว์
กิจกรรมการทำงานบริการสังคมเป็นต้น
5) ให้ทุนในการจัดกิจกรรมเพื่อช่วยในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด ได้แก่ การจัดคอนเสิร์ต
การกุศลการขายสินค้าหารายได้เพื่อการกุศลการรับบริจาคเป็นต้น
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดการมีส่วนร่วมของประชาชน/ชุมชนที่ดีเด่นในประเทศญี่ปุ่นจนหลายๆประเทศนำมาเป็นแบบอย่าง
ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วยคือ อาสาสมัครคุมประพฤติ อาสาสมัครคุมประพฤติ (volunteer probation
officers,VPOs)คือประชาชนที่เข้ามาช่วยงานของพนักงานคุมประพฤติอาชีพ(ProfessionalProbation
Officers,PPOs)ในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด2กลุ่มคือ(1)ผู้ถูกคุมความประพฤติ(probationer)และ
(2) ผู้ได้รับการพักการลงโทษ (parolee)ทุกเพศทุกวัย ให้ผู้กระทำผิดเหล่านี้สามารถแก้ไขฟื้นฟูตนเองได้
ไม่กระทำผิดซ้ำอีกกลับตนเป็นพลเมืองดีประกอบสัมมาอาชีพ เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าของสังคมและ
อาสาสมคัรคมุประพฤติยงัชว่ยเหลอืชมุชนในการปอ้งกนัอาชญากรรมอกีดว้ยกฎหมายบญัญตัิให้อาสาสมคัร
คุมประพฤติมีสถานะเป็นเจ้าพนักงานของรัฐที่ไม่ถาวร(non-permanentgovernmentofficials)
7-19
อาสาสมัครคุมประพฤติมีภารกิจสำคัญ 2ประการคือ (1) การช่วยผู้กระทำผิดในการแก้ไขฟื้นฟู
ตนเองได้แก่การให้คำแนะนำและช่วยเหลือผู้ถูกคุมประพฤติและผู้ที่รับการพักการลงโทษและก่อนที่กรม
ราชทณัฑ์จะปลอ่ยตวัผู้ตอ้งขงัรายใดอาสาสมคัรคมุประพฤติจะรายงานขอ้มลูเกีย่วกบัสภาพแวดลอ้มที่บคุคล
นั้นอยู่อาศัยเมื่อได้รับการปล่อยตัวตลอดจนสืบเสาะข้อเท็จจริงสำหรับผู้ที่ได้รับการพิจารณาอภัยโทษ
(โปรดอ่านเนื้อหาสาระโดยละเอียดใน เอกสารการสอนชุดวิชาการบริหารงานและกระบวนการ
ยุติธรรมมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช)
การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศอังกฤษประเทศอังกฤษมีพระราชบัญญัติว่าด้วยการยุติธรรมในทางอาญาของประเทศอังกฤษ(Criminal
JusticeAct,1948)มีวิธีการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดเปลี่ยนแปลงจากการลงโทษจำคุกและเฆี่ยนเช่น
1. การคุมประพฤติProbationคือถ้าศาลเห็นว่าตามพฤติการณ์ทั่วๆไปไม่สมควรจำคุกจำเลย
ศาลอาจสั่งปล่อยตัวจำเลยไปโดยให้อยู่ในความควบคุมของพนักงานคุมประพฤติและอาจสั่งให้จำเลยไปอยู่
ในสถานที่ที่กำหนดไว้หรือให้กลับบ้านของตนเองก็ได้การคุมประพฤติมีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่า1ปีและ
ไม่เกิน3ปีถ้าผู้ถูกคุมประพฤติทำผิดเงื่อนไขแห่งการคุมประพฤติก็อาจจะถูกปรับไม่เกินครั้งละ10ปอนด์
2. การเอาตัวไว้อบรมและการกักคุมเพื่อป้องกันการกระทำผิด (Corectiver Training and
PreventiveDetention)บุคคลที่อายุไม่น้อยกว่า21ปีถ้าต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำผิดขึ้นและปรากฏว่า
เคยต้องโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า2ครั้งภายหลังที่อายุครบ17ปีแล้วอาจถูกควบคุมตัวไว้อบรมได้เป็นเวลา
ไม่น้อยกว่า2ปีและไม่มากกว่า4ปีบุคคลที่อายุกว่า30ปีขึ้นไปซึ่งเคยต้องโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า3ครั้ง
ภายหลังที่มีอายุครบ 17ปีแล้ว อาจถูกศาลสั่งให้กักคุมตัวไว้ในเรือนจำเพื่อป้องกันการกระทำผิดเป็นเวลา
ไม่น้อยกว่า 5 ปี และไม่เกิน 14ปี ในระหว่างนี้ศาลจะสั่งให้ปล่อยตัวภายใต้การสอดส่องของเจ้าพนักงาน
ก็ได้
การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศฝรั่งเศสกฎหมายฝรั่งเศสบัญญัติวิธีการเพื่อความปลอดภัยไว้3กรณีคือ
1. การตัดเสรีภาพสำหรับคนวิกลจริต สำหรับคนติดสุราและติดยาเสพติดการกักกันผู้ที่กระทำ
ผิดหลายครั้งสำหรับคนขอทานและคนเร่ร่อน
2. การกำจดัเสรภีาพการหา้มมิให้ผู้ที่ตอ้งคำพพิากษาวา่ได้กระทำความผดิประกอบอาชพีหรอืธรุกจิ
บางอย่างเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเช่นอาชีพนางผดุงครรภ์และการทำงานธนาคารเป็นต้น
การห้ามมิให้อยู่ในสถานที่บางแห่งภายหลังที่รับโทษแล้ว เก็บตัวบุคคลที่ต้องโทษจำคุกเกินกว่า 1 ปี ไว้ใน
สถานที่พิเศษห้ามมิให้อยู่ในท้องที่เดียวกับบุคคลที่ถูกตนขู่เข็ญว่าจะทำร้ายต่อร่างกายหรือทรัพย์สิน เว้น
แต่จะได้ทำทัณฑ์บนไว้ต่อศาล
7-20
3. การปฏิบัติเกี่ยวกับทรัพย์สินการริบทรัพย์สินที่ใช้ในการปลอมแปลงหรือที่ใช้ในการซื้อการขาย
หรือการมีไว้โดยผิดกฎหมายการปิดสถานที่ประกอบการค้าหรืออุตสาหกรรมซึ่งใช้สำหรับกระทำความผิด
การยุบเลิกนิติบุคคลซึ่งกรรมการหรือผู้จัดการถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกเกินกว่า1ปี
(โปรดอ่านเนื้อหาสาระโดยละเอียดในบทความกฎหมายในส่วนการป้องกัน โดยหลวงจักรปราณี
ศรีศิลวิสุทธิ์ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ศาลยุติธรรม(www.library.coj.go.th))
กิจกรรม7.2.2
ประเทศญี่ปุ่นใช้วิธีการใดในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นแบบอย่างให้หลายประเทศ
ดำเนินการตามแบบของประเทศญี่ปุ่น
บันทึกคำตอบกิจกรรม7.2.2
(โปรดอ่านคำตอบจากแนวตอบกิจกรรมในแนวการศึกษาหน่วยที่7ตอนที่7.2กิจกรรม7.2.2)
7-21
แนวตอบกิจกรรมหน่วยที่7
ทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิด
ตอนที่7.1ความเป็นมาและทฤษฎีการแก้ไขผู้กระทำผิด
แนวตอบกิจกรรม7.1.1
ปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุมประพฤติเป็นผู้ใช้ทฤษฎีการแก้ไขฟื้นฟู
แนวตอบกิจกรรม7.1.2
ซิกมันด์ฟรอยด์เสนอทฤษฎีทางจิตวิทยาโดยมองว่าอาชญากรเป็นคนเจ็บเป็นคนป่วยมากกว่าที่
จะเป็นคนชั่วร้ายการที่อาชญากรกระทำความผิดลงไปเป็นเพราะความเจ็บป่วยนั่นเอง
ตอนที่7.2การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในประเทศไทยและต่างประเทศ
แนวตอบกิจกรรม7.2.1
กฎหมายลักษณะอาญาร.ศ.127กำหนดโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำผิดไว้6สถานได้แก่1)ประหาร
ชีวิต2)จำคุก3)ปรับ4)การให้อยู่ในเขตที่กำหนด5)การริบทรัพย์และ6)การเรียกประกันทัณฑ์บน
แนวตอบกิจกรรม7.2.2
ประเทศญี่ปุ่นใช้การมีส่วนร่วมของประชาชนหรือชุมชนในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด คือ อาสา
สมัครคุมประพฤติเข้ามาช่วยงานคุมประพฤติของพนักงานคุมประพฤติอาชีพในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด
2 กลุ่ม คือ 1) ผู้ถูกคุมประพฤติ และ 2) ผู้ได้รับการพักการลงโทษ ซึ่งประเทศต่างๆ ใช้เป็นแบบอย่าง
รวมทั้งประเทศไทยด้วย
7-22
แบบประเมินตนเองหลังเรียนหน่วยที่7
วัตถุประสงค์ เพือ่ประเมนิความกา้วหนา้ในการเรยีนรู้ของนกัศกึษาเกีย่วกบัเรือ่ง“ทฤษฎีการแกไ้ขผู้กระทำ
ผิด”
คำแนะนำ อ่านคำถามแล้วเขียนคำตอบลงในช่องว่างนักศึกษามีเวลาทำแบบประเมินชุดนี้30นาที
1. เดิมการลงโทษผู้กระทำผิดใช้ทฤษฎีใดต่อมามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร
2. การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดมีหลักการอย่างไร
7-23
เฉลยแบบประเมินผลตนเองหน่วยที่7
ก่อนเรียน1. ทฤษฎีการลงโทษมีหลายทฤษฎี เช่นทฤษฎีลงโทษเพื่อแก้แค้นทดแทนทฤษฎีการลงโทษเพื่อ
แก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดทฤษฎีป้องปรามเป็นต้นทฤษฎีที่มุ่งเน้นให้ผู้กระทำความผิดได้กลับตัวเป็นคนดีและ
สามารถกลับเข้าสู่สังคมตามปกติได้คือทฤษฎีการลงโทษเพื่อแก้ไขฟื้นฟู
2. ทฤษฎีการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดมี2ทฤษฎีได้แก่
1) ทฤษฎีแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดโดยเจ้าพนักงาน
2) ทฤษฎีแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดโดยประชาชนและชุมชนร่วมกับเจ้าพนักงาน
3. ประเทศฝรั่งเศสบัญญัติวิธีการเพื่อความปลอดภัยไว้3กรณีคือ
1) การตัดเสรีภาพสำหรับคนวิกลจริตคนติดสุราและติดยาเสพติดขอทานและคนเร่ร่อน
2) การกำจัดเสรีภาพโดยห้ามผู้ต้องคำพิพากษาประกอบอาชีพหรือธุรกิจบางอย่าง
3) การลงโทษเกี่ยวกับทรัพย์การริบทรัพย์การปิดสถานที่ประกอบการค้าเป็นต้น
4. ตามกฎหมายอาญามาตรา 56 ให้อำนาจศาลสั่งรอการลงอาญาหรือรอการลงโทษได้ในกรณี
ความผิดที่มีโทษไม่เกิน 3 ปี โดยศาลจะต้องพิจารณาถึงความผิด อายุ การศึกษา ความประพฤติ และ
พฤติการณ์อื่นๆ เพื่อจะพิจารณาว่าผู้กระทำมีเจตนาชั่วร้ายอย่างไรมีโอกาสกลับตัวเป็นคนดีได้หรือไม่ ถ้า
เห็นว่าความผิดที่กระทำไม่ได้เกิดจากจิตใจชั่วร้ายผู้กระทำมีโอกาสกลับตัวเป็นคนดีและเข้าสู่สังคมได้ศาล
ก็จะพิพากษาให้รอลงอาญาหรือรอการลงโทษผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นการใช้ทฤษฎีแก้ไขฟื้นฟู และเป็นทฤษฎีที่
มุ่งเน้นให้โอกาสผู้กระทำผิดได้กลับตัวและเข้าสู่สังคมได้
หลังเรียน1. เดิมการลงโทษผู้กระทำผิดใช้ทฤษฎีการลงโทษเพื่อแก้แค้น ซึ่งไม่ได้ผลในการลดปัญหา
อาชญากรรม จึงได้หันมาใช้ทฤษฎีแก้ไขฟื้นฟู ซึ่งทฤษฎีนี้มีมาแต่สมัยคริสตกาลแล้ว เช่น การไถ่บาป
เป็นต้น
2. การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดมีหลักการคือการลงโทษผู้กระทำผิดโดยวิธีการที่ให้โอกาสได้กลับ
ตัวเป็นคนดีและให้โอกาสกลับเข้าสู่สังคมได้