หลักนิติธรรม(Rule of Law)
หลักนิตธิรรม (Rule of Law)
“...หลักนิติธรรม หมายถึง หลักการปกครองที่บุคคลทั้งหลาย สถาบันและหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นสาธารณะหรือเอกชนรวมไปถึงรัฐ ความรับผิดชอบทางกฎหมายที่ได้มีการประกาศอย่างเป็นการทั่วไป มีการบังคับใช้อย่างเสมอกันและสอดคล้องกับธรรมเนียมและมาตรฐานของสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ หลักดังกล่าวนี้จะต้องมีมาตรการเพื่อเป็นการประกันการเครารพและปฏิบัติต่อหลักการความสูงสุดของกฎหมาย ความเท่าเทียมกันทางกฎหมาย มีความโปร่งใสและยุติธรรมในการใช้กฎหมาย การแบ่งแยกอ านาจ การมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ ความชัดเจนแน่นอนของกฎหมาย หลีกเลี่ยงการเลือกปฏิบัติ ความโปร่งใสของกฎหมายและกระบวนการทางกฎหมาย”
(S/2004/616)Report of the Secretary-General on the Rule of Law and
Transitional Justice in Conflict and Post-Conflict Societies
ประมวลกฎหมายอาญา
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 113 ผู้ใดใช้ก ำลังประทุษร้ำย หรือขู่เข็ญว่ำจะใช้ก ำลังประทุษร้ำย เพื่อ
(1) ล้มล้ำงหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
(2) ล้มล้ำงอ ำนำจนิติบัญญัติ อ ำนำจบริหำร หรืออ ำนำจตุลำกำรแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อ ำนำจดังกล่ำวแล้วไม่ได้ หรือ
(3) แบ่งแยกรำชอำณำจักรหรือยึดอ ำนำจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งรำชอำณำจักร
ผู้นั้นกระท ำควำมผิดฐำนเป็นกบฏ ต้องระวำงโทษประหำรชีวิต หรือจ ำคุกตลอดชีวิต
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 114 ผู้ใดสะสมก ำลังพลหรืออำวุธ ตระเตรียมกำรอื่นใด หรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือกระท ำควำมผิดใด ๆ อันเป็นส่วนของแผนกำร เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงรำษฎรให้เป็นกบฎหรือรู้ว่ำมีผู้จะเป็นกบฎ แล้วกระท ำกำรใดอันเป็นกำรช่วยปกปิดไว้ ต้องระวำงโทษจ ำคุกตั้งแต่สำมปีถึงสิบห้ำปี
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 115 ผู้ใดยุยงทหำรหรือต ำรวจให้หนีรำชกำร ให้ละเลยไม่กระท ำกำรตำมหน้ำที่ หรือให้ก่อกำรก ำเริบ ต้องระวำงโทษจ ำคุกไม่เกินห้ำปี
ถ้ำควำมผิดนั้นได้กระท ำลงโดยมุ่งหมำยจะบ่อนให้วินัยและสมรรถภำพของกรมกองทหำรหรือต ำรวจเสื่อมทรำมลง ผู้กระท ำต้องระวำงโทษจ ำคุกไม่เกินสิบปี
ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 116 ผู้ใดกระท ำให้ปรำกฎแก่ประชำชนด้วยวำจำ หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นกำรกระท ำภำยในควำมมุ่งหมำยแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงควำมคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
(1) เพื่อให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงในกฎหมำยแผ่นดินหรือรัฐบำล โดยใช้ก ำลังข่มขืนใจหรือใช้ก ำลังประทุษร้ำย
(2) เพื่อให้เกิดควำมปั่นป่วนหรือกระด้ำงกระเดื่องในหมู่ประชำชนถึงขนำดที่จะก่อควำมไม่สงบขึ้นในรำชอำณำจักร หรือ
(3) เพื่อให้ประชำชนล่วงละเมิดกฎหมำยแผ่นดินต้องระวำงโทษจ ำคุกไม่เกินเจ็ดปี
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกัรไทย 2550
มาตรา ๓ วรรค 2การปฏิบัติหน้าที่ของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล รวมทั้งองค์กรตาม
รัฐธรรมนูญ และหน่วยงานของรัฐ ต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกัรไทย 2550
มาตรา ๖๘บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอ านาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ มิได้
ในกรณีที่บุคคลหรือพรรคการเมืองใดกระท าการตามวรรคหนึ่ง ผู้ทราบการกระท าดังกล่าวย่อมมีสิทธิเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและยื่นค าร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยส่ังการให้เลิกการกระท าดังกล่าว แต่ทั้งนี้ ไม่กระทบกระเทือนการด าเนินคดีอาญาต่อผู้กระท าการดังกล่าว
ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยส่ังการให้พรรคการเมืองใดเลิกกระท าการตามวรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญอาจสั่งยุบพรรคการเมืองดังกล่าวได้
ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีค าสั่งยุบพรรคการเมืองตามวรรคสาม ให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารของพรรคการเมืองที่ถูกยุบในขณะที่กระท าความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นระยะเวลาห้าปีนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีค าสั่งดังกล่าว
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกัรไทย 2550
มาตรา ๗๐ บุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้
มาตรา ๗๑ บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ รักษาผลประโยชน์ของชาติ และปฏิบัติตามกฎหมาย
มาตรา ๗๒ บุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธเิลือกต้ัง.......
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกัรไทย 2550
มาตรา ๑๑๒ การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในแต่ละจังหวัด ให้ใช้เขตจังหวัดเป็นเขตเลือกตั้งและ
ให้มีสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดละหนึ่งคน โดยให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้หนึ่งเสียงและให้ใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ
เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งสามารถหาเสียงเลือกตั้งได้ก็แต่เฉพาะที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ของวุฒิสภา
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเลือกตั้งและการหาเสียงเลือกตั้งของสมาชิกวุฒิสภาให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกัรไทย 2550
มาตรา 126 วรรค 3สมาชิกคนหนึ่งย่อมมีเสียงหนึ่งในการออกเสียงลงคะแนน ถ้ามีคะแนน
เสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงช้ีขาด
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกัรไทย 2550
มาตรา 291 (1) วรรค 1ญัตตขิอแก้ไขเพิ่มเติมต้องมาจากคณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรมีจ านวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจ านวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร หรือจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภามีจ านวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจ านวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา หรือจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกต้ังจ านวนไม่น้อยกว่าห้าหมื่นคนตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าช่ือเสนอกฎหมาย