ปัญหาการศึกษาสถาบันกษตัริย์ ไม่ได้อยู่ทีป่ัญหา

“การศึกษา” สถาบันกษตัริย์ แต่อยู่ที ่ปัญหา “เงือ่นไขของ

ความเป็นไปได้” (conditions of possiblity) ของการศึกษา

สถาบันกษตัริย์ ซึ่งเป็น “เงือ่นไขของความเป็นไปได้” ของ

การเป็นหรือเกดิขึน้ของ “วชิาการ” สังคมศาสตร์

มนุษยศาสตร์ไทยอย่างแท้จริงทั้งหมดด้วย

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2475 2490 2500

2398

2475

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Wilson 2505 Riggs 2509

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Riggs 2509

2521-25

Wilson 2505

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Riggs 2509

มค 24

2521-25

Wilson 2505

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Riggs 2509

มค 24

2521

2521-25

Wilson 2505

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Riggs 2509

มค 24

2521

2517 2521-25

Wilson 2505

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Riggs 2509

มค 24

2521

2517 2521-25

Wilson 2505

2526

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Riggs 2509

มค 24

2521

2517

2500

2521-25

Wilson 2505

2398 กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2526

2475 2500 2525 2555 2528

การแบ่งยุคสมยัของประวตัศิาสตร์ไทยสมยัใหม่

ชาตนิิยม-รัฐนิยม “ยุคพฒันา” ประเทศอตุสาหกรรมใหม่

2475 2490 2500 2501

2516 2519

2520 2531 2534

2535 2540 2549 2544

1 ระบอบคณะราษฎร

2 ยุคแย่งชิงอาํนาจ

3 ระบอบสฤษดิ์

4 ระบอบประชาธิปไตยครึ่ง

ใบ

5 ศูนย์กลางอาํนาจเริ่มเปลีย่นมาทีก่ารเลอืกตั้ง

ผู้นําประเทศต้องมาจากการชนะเลอืกตั้งทัว่ไป หรือ ระบอบ คณะราษฎร ที่เสื่อมลง

รธน.50 เป็น รธน.จากการ รปห. ฉบับแรก ทีก่าํหนดให้ นายก มาจากการเลอืกตั้ง

9 มิย 89

ปว 24 มิถุนา 2475 ธค 2494 เสด็จกลบัไทยถาวร

“14 ตุลา 16” “6 ตุลา 19”

รปห 19 กนัยา

รปห 20 ตุลา 2520 ชาติชาย เป็นนายก

“17 พฤษภา 35”

“ปฏิรูปการเมือง” รธน 40

รสช. กมุภา 2534

ทกัษิณ เป็นนายก

“ยุคพฒันา” ประเทศอตุสาหกรรมใหม่

รปห 8 พ.ย. 90 รปห 16 กนัยา 2500

รปห 20 ตุลา 2501

ชาตนิิยม - รัฐนิยม

1 ธค 2485 ก่อตั้ง พคท. “วนัเสียงปืนแตก”

7(8) สิงหา 2508 2525

พคท ล่มสลาย

2475 2490 2500 2501

2516 2519

2520 2531 2534

2535 2540 2549 2544

1 ระบอบคณะราษฎร

2 ยุคแย่งชิงอาํนาจ

3 ระบอบสฤษดิ์

4 ระบอบประชาธิปไตยครึ่ง

ใบ

5 ศูนย์กลางอาํนาจเริ่มเปลีย่นมาทีก่ารเลอืกตั้ง

ผู้นําประเทศต้องมาจากการชนะเลอืกตั้งทัว่ไป หรือ ระบอบ คณะราษฎร ที่เสื่อมลง

รธน.50 เป็น รธน.จากการ รปห. ฉบับแรก ทีก่าํหนดให้ นายก มาจากการเลอืกตั้ง

9 มิย 89

ปว 24 มิถุนา 2475 ธค 2494 เสด็จกลบัไทยถาวร

“14 ตุลา 16” “6 ตุลา 19”

รปห 19 กนัยา

รปห 20 ตุลา 2520 ชาติชาย เป็นนายก

“17 พฤษภา 35”

“ปฏิรูปการเมือง” รธน 40

รสช. กมุภา 2534

ทกัษิณ เป็นนายก

“ยุคพฒันา” ประเทศอตุสาหกรรมใหม่

รปห 8 พ.ย. 90 รปห 16 กนัยา 2500

รปห 20 ตุลา 2501

ชาตนิิยม - รัฐนิยม

1 ธค 2485 ก่อตั้ง พคท. “วนัเสียงปืนแตก”

7(8) สิงหา 2508 2525

พคท ล่มสลาย

2475 2490 2500 2501

2516 2519

2520 2531 2534

2535 2540 2549 2544

1 ระบอบคณะราษฎร

2 ยุคแย่งชิงอาํนาจ

3 ระบอบสฤษดิ์

4 ระบอบประชาธิปไตยครึ่ง

ใบ

5 ศูนย์กลางอาํนาจเริ่มเปลีย่นมาทีก่ารเลอืกตั้ง

ผู้นําประเทศต้องมาจากการชนะเลอืกตั้งทัว่ไป หรือ ระบอบ คณะราษฎร ที่เสื่อมลง

รธน.50 เป็น รธน.จากการ รปห. ฉบับแรก ทีก่าํหนดให้ นายก มาจากการเลอืกตั้ง

9 มิย 89

ปว 24 มิถุนา 2475 ธค 2494 เสด็จกลบัไทยถาวร

“14 ตุลา 16” “6 ตุลา 19”

รปห 19 กนัยา

รปห 20 ตุลา 2520 ชาติชาย เป็นนายก

“17 พฤษภา 35”

“ปฏิรูปการเมือง” รธน 40

รสช. กมุภา 2534

ทกัษิณ เป็นนายก

“ยุคพฒันา” ประเทศอตุสาหกรรมใหม่

รปห 8 พ.ย. 90 รปห 16 กนัยา 2500

รปห 20 ตุลา 2501

ชาตนิิยม - รัฐนิยม

1 ธค 2485 ก่อตั้ง พคท. “วนัเสียงปืนแตก”

7(8) สิงหา 2508 2525

พคท ล่มสลาย

2475 2490 2500 2501

2516 2519

2520 2531 2534

2535 2540 2549 2544

1 ระบอบคณะราษฎร

2 ยุคแย่งชิงอาํนาจ

3 ระบอบสฤษดิ์

4 ระบอบประชาธิปไตยครึ่ง

ใบ

5 ศูนย์กลางอาํนาจเริ่มเปลีย่นมาทีก่ารเลอืกตั้ง

ผู้นําประเทศต้องมาจากการชนะเลอืกตั้งทัว่ไป หรือ ระบอบ คณะราษฎร ที่เสื่อมลง

รธน.50 เป็น รธน.จากการ รปห. ฉบับแรก ทีก่าํหนดให้ นายก มาจากการเลอืกตั้ง

9 มิย 89

ปว 24 มิถุนา 2475 ธค 2494 เสด็จกลบัไทยถาวร

“14 ตุลา 16” “6 ตุลา 19”

รปห 19 กนัยา

รปห 20 ตุลา 2520 ชาติชาย เป็นนายก

“17 พฤษภา 35”

“ปฏิรูปการเมือง” รธน 40

รสช. กมุภา 2534

ทกัษิณ เป็นนายก

“ยุคพฒันา” ประเทศอตุสาหกรรมใหม่

รปห 8 พ.ย. 90 รปห 16 กนัยา 2500

รปห 20 ตุลา 2501

ชาตนิิยม - รัฐนิยม

1 ธค 2485 ก่อตั้ง พคท. “วนัเสียงปืนแตก”

7(8) สิงหา 2508 2525

พคท ล่มสลาย

2475 2490 2500 2522-2525

กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2398

2475

2493 2500

สารคดกีารเมอืง-งาน“นํา้เงนิแท้”

2513

2521-23

ปรีดี “ความเป็นอนิจจัง

ของสังคม” 2500

มคี 24

มยิ 24

มยิ 25

2475 2490

Riggs 2509

มค 24

2521

2517

2500

2521-25

Wilson 2505

2398 กึง่เมอืงขึน้ กึง่ศักดนิา

2526

การ “เปลีย่นประเดน็ครั้งใหญ่” ของ “ปัญญาชน 14 ตุลา”

การคนืดกีบัสถาบันกษตัริย์ (reconciliation with the monarchy)

ไม่ไว้ใจ / แอนตี ้นักการเมอืงเลอืกตั้ง “ชาวบ้านนิยม” (populism / narodism)

การคนืดกีบัสถาบันกษตัริย์ (reconciliation with the monarchy)

2542 2545 2548 2549

ปัญหาการศึกษาสถาบันกษตัริย์ ไม่ได้อยู่ทีป่ัญหา

“การศึกษา” สถาบันกษตัริย์ แต่อยู่ที ่ปัญหา “เงือ่นไขของ

ความเป็นไปได้” (conditions of possiblity) ของการศึกษา

สถาบันกษตัริย์ ซึ่งเป็น “เงือ่นไขของความเป็นไปได้” ของ

การเป็นหรือเกดิขึน้ของ “วชิาการ” สังคมศาสตร์

มนุษยศาสตร์ไทยอย่างแท้จริงทั้งหมดด้วย

อะไรคอื “วชิาการ” ตามบรรทดัฐานสมยัใหม่?

“วชิาการ” ตามบรรทดัฐานสมยัใหม่ คอื การ

แสวงหาความรู้ โดยไม่มกีารขดีกรอบจาํกดัล่วงหน้า

โดยอาํนาจรัฐ

ดงันั้น ตราบใดทีย่งัมกีารขดีกรอบจาํกดัล่วงหน้า

โดยอาํนาจรัฐ เรื่องสถาบันกษตัริย์ ไม่ว่าใครจะ

“ทาํงานวชิาการ” เรื่องอะไรกต็าม กล็้วนแต่ไม่ใช่

งานวชิาการทีแ่ท้จริง

และ การสร้าง “เงือ่นไขของความเป็นไปได้” (conditions of

possiblity) ของ “วชิาการ”, การทาํให้เกดิ “วชิาการ” ที่

แท้จริงในประเทศนี ้(ซึ่งเป็นเรื่องเดยีวกบัการทาํให้เกดิ

“เงือ่นไขของความเป็นไปได้” ของการศึกษาสถาบันกษตัริย์)

เป็นอะไรที ่ไม่สามารถสร้างขึน้ได้ “ภายในวงวชิาการ”