As 400 Manual2

บริษัท เมโทรซิสเต็มสคอรปอเรช่ัน จํากดั (มหาชน)

Section 1

บทแนะนําเครื่อง AS/400 (Introduction to Computer AS/400)

ประเภทของคอมพิวเตอร

เคร่ืองคอมพิวเตอรมีอยูหลายประเภทและสามารถนําไปใชประโยชนไดในหลายๆ สถานท่ี เชน ในสํานักงาน : ชวยเตรยีม จัดเก็บและกระจายเอกสารตางๆในโกดังเก็บของ ในโกดังเก็บของ : ชวยควบคุมจํานวนสินคาคงคลัง ทําใหสินคาไมขาดสตอกหรือเก็บมากเกินไป

ในหองทดลอง : ชวยวเิคราะหผลการทดลอง

ในโรงงานการผลิต : ชวยควบคุมปริมาณของสวนผสมตางๆ

แมเครื่องคอมพวิเตอรจะอยูในหลายๆ รูปแบบก็ตาม แตสิ่งทีเ่ปนพื้นฐานของคอมพวิเตอรจะประกอบดวย

1.Input : การรับขอมูล

2.Processor : การคํานวณหรือการเปรียบเทียบ

3.Output : แสดงผลการคํานวณทางหนาจอหรืองานพิมพ

ขั้นตอนการทํางานตางๆ เชน การรับขอมูล การคํานวณ ตลอดจนการแสดงผลลัพธ จะถูกควบคุมดวยโปรแกรมที่เรียกวา Operating System (หรือเรียกยอๆ วา OS) ในระหวางการทํางานแตละขั้นตอนของ Input Process และ Output ขอมูลจําเปนตองมีที่เก็บ การจดัเก็บขอมูล (Storage) จึงเปนข้ันตอนท่ี 4 ที่เกิดขึ้นของคอมพิวเตอร

มีอุปกรณหลากหลายชนิดสําหรบั Input Process Output และ Storage ซึ่งเมื่อนําอุปกรณเหลานี้มารวมกันกจ็ะกลายเปนเครื่องคอมพิวเตอรนั่นเอง โดยปกติแปนสําหรับพิมพขอมูล (Keyboard) จะเปนตัวสงขอมูลใหเขาไปทํางาน (ขั้นตอนการ Input) จากน้ันจะนําไปเก็บไวในท่ีเก็บ (Storage) เมื่อมีการดึงขอมูลจาก Storage มาทํางานตามโปรแกรม (ขั้นตอนการ Process) เกบ็ผลลัพธท่ีไดไวใน Storage จนกระท่ังมีการดงึผลลัพธออกมาแสดงทางหนาจอ หรืออกงานพิมพ (เปนข้ันตอน Output)


1.Input : เปนอุปกรณท่ีรับขอมูลจากภายนอก จากนั้นจะเปลี่ยนเปนสัญญาณอิเลคโทรนิคที่เครื่องคอมพิวเตอรสามารถเขาใจได โดยสวนใหญอุปกรณรับขอมูลจะเปนลักษณะเหมือนแปนพิมพดีด (Keyboard) นอกเหนือจากน้ีอาจจะอยูในลักษณะอื่นๆ อีกได เชน

Bar Code Scanner : ประกอบดวยลายเสน มักใชตดิบนสินคาใน Supermarket เวลาชําระเงิน เจาหนาที ่

เก็บเงินจะใชเครื่องอานที่เรยีกวา Scanner อาน Bar Code เหลานั้น จากนั้นจะทํา

ทําการเปลี่ยนเปนขอมูลสงใหกบัเครื่องคอมพิวเตอร

Magnetic Card Reader : ใชสําหรับธนาคารในการอานรายละเอยีดของบญัชีเงินฝากตางๆ

Push Button Telephone : ใชสําหรับใหบริการการใชโทรศพัท โดยคอมพิวเตอรจะรับฟงสัญญาณจากปุม

โทรศัพทที่กดจากเครื่อง

2.Output : เปนอุปกรณท่ีทําการแปลงสัญญาณอิเลคโทรนิคจากคอมพิวเตอรใหเปนขอมลูท่ีอานเขาใจไดออกจากเคร่ืองคอมพิวเตอร สวนใหญอปุกรณสงขอมูลจะเปนจอคอมพิวเตอร (Display) ซึง่มีลักษณะเหมือนจอโทรทัศน นอกจากน้ียังมีอุปกรณสงขอมลูอ่ืนๆ อีก เชน

Printer : เปนเคร่ืองพิมพท่ีพิมพผลลัพธออกมาไดในหลายๆ แบบ อาจเปนรายงานของ

แผนกตางๆ หรืออาจเปนใบเสร็จรับเงินจากเครื่องชาํระเงินใน Supermarket

Customer Produced Speech : ในประเทศสหรัฐอเมริกา การสอบถามหมายเลขโทรศัพทจะใชคอมพิวเตอรใน

การตอบรับอุปกรณรับและสงขอมูลท่ีประกอบกันเขาเปนชุดเดียวกัน เรียกวา

Display Station สวนอุปกรณรับขอมูล (Input Device) หรืออุปกรณสงขอมูล

(Output Device) ในบางครัง้จะเรียกแตละชนดิวา Workstation

Storage Device เม่ือขอมูลไดเปล่ียนเปนสัญญาณอิเลคโทรนิคโดย Input Device แลว ขอมูลจะถูกเก็บไวในที่ๆ หน่ึง เปรียบเสมือนหองเก็บของหรือคลังเก็บของ เรียกวา Storage ซึ่ง Storage Device มีอยูหลายประเภท เชน

- Main Storage

- Magnetic Disk

- Diskette

- Magnetic Tape


สิ่งสําคัญของ Storage Device ก็คือ ความเร็ว (Speed) Storage Device แตละประเภทมีความเร็วที่แตกตางกัน ซ่ึงจะมีผลกับโปรแกรม นั่นก็คือถาขอมูลถกูนําไปเก็บไวใน Storage ท่ีมีความเร็วสูง เมือ่เรียกโปรแกรมท่ีใชขอมูลนั้น การทํางานของโปรแกรมก็จะเร็ว

Main Storage จัดไดวาเปนท่ีเก็บขอมูลท่ีเร็วท่ีสุดในระบบคอมพิวเตอรจะอยูในรูปแบบของ Electronic Chip ม ี

ลักษณะที่สําคัญ 2 สวน คอื

1. เมื่อเปดคอมพวิเตอร จะไมสามารถนาํขอมูลเขาไปเก็บใน Main Storage

2. ขบวนการทาํงานตางๆ จะถูกทําโดยโปรแกรมซึง่อยูใน Main Storage โดยกอนหนาน้ัน จะม ี

การกอปป (Copy) โปรแกรมเหลาน้ันเขาไปไวใน Main Storage

Magnetic Disk ทํางานชากวา Main Storage ขอมูลใน Magnetic Disk จะคงอยูใน Magnetic Disk จนกวาจะถูกขอมูลอ่ืนมาทับ ขอมลูและโปรแกรมบนคอมพิวเตอรสวนใหญจะถูกเก็บอยูใน Magnetic Disk ซึ่ง Magnetic Disk นี้จะเคลื่อนยายไมได มีลักษณะเหมือนรองแผนเสียง สวนท่ีใชในการบันทึกขอมลูลงบน Magnetic Disk เรียกวา Disk Drive

Diskette ลักษณะการทํางานคลายกับ Magnetic Disk แตชากวาและเก็บขอมูลไดนอยกวา Diskette

เหมือนกับ Magnetic Disk ตรงที่เก็บขอมูลไดมั่นคงถาวร แตตางกนัตรงท่ีสามารถนําออกจาก

Diskette Drive ได

Magnetic Tape เปนลักษณะของอุปกรณแมเหล็กเหมือนตลับ VDO อุปกรณที่ใชอานเรียกวา Tape Drive มี

ลักษณะคลาย Diskette ตรงที่วาสามารถนําเขาออกจาก Tape Drive ได และใชไดดีสําหรับ

การยายขอมูลจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึง่

Processor เปนวงจรไฟฟาที่ใชทํางานกับขอมูล เชน ยายขอมูลจากจุดหนึ่งในที่เก็บ (Storage) ไปยังอีกจุดหนึง่, เปรียบเทียบคาเพ่ือจัดลําดับกอนหลัง, ทําการคาํนวณคาทางคณติศาสตร, ใชเรียบเรียงถอยคาํในบทความ

Processor จะทําหนาที่อานคาํสั่งแตละคําสัง่จากโปรแกรมและทํางานตามคําสัง่นั้น นอกจากน้ี ยังเปนตวักาํหนดวาจะทําคาํส่ังใดบาง ซึง่คาํสั่งเหลานั้นจะอยูใน Main Storage ดังไดกลาวมาแลว

The Operating System อุปกรณรับสง (Input Output) และ Storage ซึ่งประกอบกันเปนคอมพิวเตอรนั้นยอมจะถกูเรียกใชจากผูใชหลายๆ คน ดังนั้นจึงตองมีระบบการควบคุมทีเ่รียกกันโดยทั่วไปวา Operating System (OS)


Operating System ประกอบดวยกลุมของโปรแกรมเพื่อชวยจัดการการใชอุปกรณตาง ๆ เชน เคร่ืองพิมพ, จอภาพ

ตัวอยาง : เมื่อมีผูตองการใชเครื่องพมิพพรอมกันในเวลาเดียวกัน OS จะจัดการใหวาผูใดจะไดใชกอน นอกจากน้ี O/S ยังเปนตัวกาํหนดในเรื่องตางๆ เชน ทํางานมากกวาหน่ึงโปรแกรมในขณะเดยีวกัน , ควบคุมงานพิมพตางๆ , จัดตารางของงานในเครื่อง , ติดตอส่ือสารกับผูใช เปนตน เครื่อง AS/400 จัดไดวาเปนเครื่องคอมพวิเตอรที่สมบูรณแบบและมีประสิทธิภาพมากท่ีสุด เนื่องจากไดถูกออกแบบใหมคีวามสามารถคลองตัวและรอบดานเพื่อสนองความตองการของธุรกิจในระดับตางๆ อยางกวางขวาง AS/400 มีอยู 2 ระดับคือ Low Environment และ High Environment ซึ่งมี 3 รุนดวยกัน ในแตละรุนก็แตกตางกนัในดานของ Disk และ Main Storage ดังนี ้

- รุน Low Environment (9402, 9404) เหมาะสาํหรับธุรกิจขนาดยอม ซ่ึงลักษณะของเคร่ืองสามารถ

จัดวางไวใตโตะทํางานได

- รุน High Environment (9406) เหมาะสําหรับธุรกิจขนาดกลางถงึขนาดใหญที่มีผูใชเปนจํานวนมาก

ลักษณะของเครื่องจะมีลักษณะเปนชั้นๆ (Rack) เหมือนตูเก็บเอกสาร

ปจจุบันเคร่ือง AS/400 ไดพัฒนาถึงระดับ Advance Series ซึง่ยังคงม ี 2 ระดับคือ Low Environment และ High Environment โดยแบงเปนรุน 200 และ 300xx

The AS/400 Operating System (OS/400) OS/400 เปนโปรแกรมหรือเคร่ืองมือสําหรับส่ังใหเคร่ือง AS/400 ทํางาน โดยที่จะสามารถทํางานไดหลายๆ งานพรอมกันในขณะเดียวกัน สวนประกอบท่ีสําคัญของ OS/400 คือ

- Control Language เปนชุดคาํส่ังตางๆที่จะใชติดตอกบัเครื่องคอมพิวเตอร

- Data Management เปนเรื่องเกี่ยวกับการกาํหนดและการใชแฟมขอมูล

- Work Management เปนสิ่งที่ควบคุมการทํางานหลายๆงาน จากผูใชหลายๆคนในขณะเดียวกัน

- Programmer Services เปนสิ่งที่มีไวเพือ่ใหโปรแกรมเมอรใชในการเขียนโปรแกรม

- Security เปนระบบรักษาและปองกันขอมลูของงานตางๆในเครื่อง

- Communication Support เปนการเชื่อมตอการทํางานระหวางเครื่อง AS/400 กับเครื่องอื่นหรือกับเครื่อง

AS/400 ดวยกัน

- PC Support เปนโปรแกรมที่ใชเชื่อมตอระหวางเครื่อง PC กับเครื่อง AS/400 ซึง่จะทําให

PC เคร่ืองน้ันทําหนาท่ีเปนจอภาพท่ีตอมาจากเคร่ือง AS/400


เครื่อง AS/400 และโปรแกรม OS/400 เปนส่ิงท่ีมปีระสิทธิภาพสูง ดังนั้น ผูใชจึงควรใชอรรถประโยชนเหลานั้นอยางเต็มที ่อยาไดลังเลหรือกลัวตอการใช Function ตาง ๆ ในเครื่อง

สรุป การทํางานของคอมพิวเตอรมใิชเปนสิ่งที่ยากตอการเรียนรู ขอเพยีงใหเขาใจวาเครื่องคอมพวิเตอรประกอบดวยอุปกรณรับขอมูล สงขอมูล และที่เก็บขอมูล ซึ่งการทํางานตางๆของอุปกรณเหลานี้จะถูกควบคมุโดย Operating System (OS/400)


Section 2 Sign On & Sign Off

การเปดและปดจอคอมพิวเตอร (Sign On & Sign Off) กอนที่ทานจะสามารถใชเครื่อง AS/400 ไดน้ัน ทานจะตองเปดจอคอมพิวเตอรและบอกใหเคร่ืองรับรูกอนวาทานเปนใคร มิใชวาทกุคนจะสามารถเขาไปใชเครื่องคอมพวิเตอรได เน่ืองจากตองมีการกําหนดช่ือและรหัสลับของบุคคลแตละคนท่ีจะใชเคร่ือง (เปนระบบการรักษาความปลอดภัยข้ันหน่ึง) ถาทานยงัไมไดรับการกําหนดช่ือและรหัสลับไวในเครื่อง ทานสามารถขอไดจากบคุคลที่มีสิทธิหรืออํานาจสูงสุดในการควบคุมดแูลเครื่องคอมพิวเตอรของทาน ซึ่งอาจเปนผูจดัการแผนกคอมพวิเตอร หรือผูดูแลแผนกน้ันๆ

ถาหากวาจอคอมพิวเตอรของทานยังไมไดเปด ใหหาปุมปดเปด เมื่อเปดปุมจอภาพ ทานจะไดหนาจอภาพที่เรียกวา Sign On ปรากฏขึ้นดงัรูป

Your User Name

โดยปกติสัญลักษณ Cursor จะปรากฏท่ีบรรทัด User สวนใหญแลวสัญลักษณ Cursor จะกระพริบหรือเรืองแสงใหพิมพชื่อของทาน (ตามทีไ่ดมีการกาํหนดไวในเครื่องแลว) ตรงบรรทัดท่ีมีคําวา User ในกรณีท่ีพิมพช่ือผิดใหแกไขโดยใชปุม Backspace (ซึง่อยูทางมุมขวาดานบนของ Keyboard) ดังรูป

Your Password

รหัสชื่อของทานจะตองเปนความลับมิใหผูใดลวงรูเพื่อความปลอดภัยของขอมูลของทาน ดังน้ันรหัสช่ือของแตละคนจะมีเพียงเจาของชื่อและ Security Officer เทาน้ันท่ีรู ดังนั้นกอนที่จะเขาไปทํางานในเครื่องได Security Officer จะสรางชื่อและรหัสของทานใหเครื่องรับรู จากนั้นทานก็สามารถใชเครื่องได (สําหรับรหัสลับน้ันทานสามารถเปล่ียนแปลงไดเองภายหลัง รายละเอียดอยูในบทท่ี 4) เวลาท่ีพิมพรหัสลับจะไมมีตัวอักษรใดๆ ปรากฏให


เห็น ในขณะเดียวกันก็ไมตองกังวลวาจะใสรหัสไมถูกตอง เน่ืองจากถาพิมพรหัสผิดพลาดเคร่ืองจะฟองขอความวา " Password not correct for user profile" หมายความวา "รหัสไมถูกตอง" หลังจากเกิดขอความเชนนี้แลว สัญลักษณ Cursor จะกลับไป ณ จุดเดิม เพื่อใหผูใชไดมีโอกาสใสรหัสอีก (Security Officer จะเปนผูกําหนดวาผูใชสามารถทดลองใสรหัสใหมไดกี่ครั้ง) จากหนาจอ Sign On เม่ือไดใสช่ือและรหัสลับแลว บรรทัดท่ีเหลือสามารถผานไปไดเลย จากนั้นใหกดปุม Enter ที่อยูทางมมุขวาดานลางของ Keyboard

Your First Menu

หนาจอภาพท่ีเห็นขางตนเปนลักษณะของ Menu ที่ใชในการทํางานหลังจากผานการ Sign On เขามา ผูใชจะไดเมนใูดก็ขึ้นอยูกับ Security Officer ซึ่งปรกติจะมีการกําหนดใหเขามาหนาจอ Main Menu เปน Menu แรก

หมายเหต ุ: ในเมนเูดียวกันอาจจะมีขอการทาํงานที่แตกตางกัน ขึ้นกับระดับผูใชวาถูกจดัใหอยูในระดับใด

เมื่อไดเมนูแลวทานสามารถเลือกขอการทํางานตางๆ ได สัญลักษณ Cursor จะปรากฏบนเสนตรงท่ีมีเครื่องหมาย ==> เราเรียกเสนนี้วา Command Line ซ่ึงในโอกาสตอไปจะไดพูดถึง Command Line วาไวใชทําอะไรบาง

Cursor Movement Key

แปน Keyboard ของจอคอมพวิเตอรจะมีหลายชนิด ดงันั้นปุมตางๆบนคียบอรดก็แตกตางกันไปขึ้นอยูกับประเภทคียบอรด อยางไรก็ตามปุมเหลานั้นจะมีสัญลักษณบอกการทํางานตางๆ

ปุมลูกศรช้ีไปทางซาย-ขวา คือปุมที่เคลื่อน Cursor ไปทางซายหรือขวาครัง้ละ 1 ตัวอกัษร ถากดคางไว Cursor จะ

วิ่งไปทางซายหรือขวาตดิตอกันไปเรื่อยๆ...

ปุมลูกศรช้ีข้ึน-ลง คือปุมท่ีจะทําใหสัญลักษณ Cursor ว่ิงข้ึนหรือลงคร้ังละ 1 บรรทัด ถากดคางไว Cursor

จะวิง่ติดตอกันจากจุดเริม่ตนจนกระทั่งถงึบรรทัดแรกของหนาจอแลวจะเริม่ตนวิง่วนจาก

บรรทัดสุดทายของหนาจอขึน้ไปถึงบรรทัดแรกของหนาจอตอไปเร่ือยๆ.....


Making Keystroke Mistake

หลังจากท่ีเปดจอภาพคอมพิวเตอรและไดเขาไปทํางานเรียบรอยตามตองการแลวใหทําการปดจอภาพน้ัน (Sign Off) อยาไดเปดคางไว

การปดจอ (Sign Off) สามารถทําได ดังนีค้ือ

- ใชขอ 90 Sign Off จาก Main Menu

- พิมพคําวา Signoff ที ่Command Line


Section 3 Using The Keyboard

การใช Keyboard (Your Keyboard) AS/400 สามารถตอกับจอไดหลายๆประเภท เชน จอ PC จอ Complex Graphics และสามารถเชื่อมระบบอ่ืนได อีกทั้งยังสามารถทาํงานไดด ีแตอาจมีบาง Key ที่การใชจะไมตรงกับ Label ที่ติด ดังนั้นในบทเรียนจะทาํใหคุณไดทราบวา Key เหลาน้ีทําอะไรไดบาง

Function Keys: มีหลายปุมบนแปนพิมพที่ทําหนาที่เหมอืนกับเครื่องพมิพดีดทัว่ไป แตมีบางปุมที่มีลักษณะพิเศษและหนาที่ในการใชงานแตกตางจากเครื่องพิมพดีดทัว่ไป แบงออกเปน 2 ลักษณะ คือ “ Engraved Function Keys ” และ “ Numbered Function Keys ”

1. Engraved Function Keys: คือ ปุมท่ีมีลักษณะเปนคํา เชน Shift, คํายอ, สัญลักษณการพิมพ ซึ่งมีลักษณะคลายกับตัวเลข โดยจะถกูเรียกตามคาํท่ีอยูบน Keyboard

1. Shift Key: ปุม Shift จะเปนปุมแรกที่จะกลาวถึง เพราะเปนปุมท่ีถูกใชมาก การใชงานใชเหมือนปุม

Shift ของเครื่องพิมพดดี คือใชเมือ่ตองการพิมพตวัอักษร ตัวพมิพใหญ หรือกรณีท่ีปุมน้ัน

มีอักษร 2 แถว คือแถวบนและแถวลาง จะใชเมื่อตองการพิมพอกัษรที่อยูแถวบน

2. Shift Lock Key เมื่อกดปุมนี้จะพมิพตวัอักษรพมิพใหญทั้งหมด

3. Caps Lock Key ปุมนี้ทําหนาทีเ่หมือน กดปุม Shift คางไวทาํใหพิมพตัวอกัษรเปนตวัพิมพใหญทัง้หมด

เมื่อจะยกเลิกการกดคางก็ใหกดซ้ําอีกครั้งหนึ่ง.

4. Enter Key ใชปุมนีเ้มื่อตองการใหคําสั่งที่พมิพลงบน Command Line ทํางานหรือเมื่อเลือกหวัขอ

การทํางานจาก Menu หรือหนาจอ

5. Alternative Key (ALT) จะถูกใชรวมกับปุมอื่นๆ เชน ใชกบัปุม SysRq หรือ ปุม Thai เม่ือใชภาษาไทย เปนตน

6. Error Reset Key ใชปุม Error Reset ในการคลายล็อคของ Keyboard เชน กรณีที่ใชปุมตางๆ นอกเสน

Command Line จะเกิด Error Code ขึ้น

7. Control Key สามารถใชปุม Control พรอมกับปุม ALT, ESC และปุม Shift ในการทําฟงกชั่นทีม่ีเพิ่ม

เติมบน Keyboard ท่ัวๆไปสําหรับ Keyboard บางตวั ปุม Control (Ctrl) น้ีจะทําหนาท่ี


เสมือนปุม Error Reset

8. Help Key ปุม Help ใชในการขอดูคาํอธิบายเพิ่มเติม เกี่ยวกับ หนาจอภาพท่ีใชอยูในขณะน้ัน

Message ท่ีไดรับหรือปญหาเล็กๆ นอยๆ ที่อาจเกิดขึ้นไดโดยใน AS/400 สามารถท่ีจะ

ใชปุม Help หรือ F1 ก็ได

9. Erase Input Keys ปุม Erase Input ใชในการลบขอความทั้งหมดนับจากจดุที่ Cursor อยูจนจบ

10. Insert Key ปุม Insert Key มีไวเพื่อตองการแทรกตัวอกัษรหรือขอความระหวางคาํที่ไดพิมพไปแลว

โดยกดปุม Insert เมื่อตองการพมิพเพิ่ม และกด Insert อีกครั้งเพือ่หยุดการ Insert

11. Delete Key ใชปุม Delete (Del) ในการลบตัวอักษรหรือขอความท่ีไดพิมพไวโดยเล่ือน Cursor ไปยัง

ตําแหนงทีต่องการลบ กดปุม Delอักษรตวันั้นจะถกูลบทิ้งครัง้ละ 1 ตัวอักษร

12. Attention Key ถามโีปรแกรมในการควบคุม Display Station ของทาน โปรแกรมสามารถกําหนดไดวา

เมื่อใชปุม Attention Key จะมีอะไรเกิดขึ้น

13. Print Key ปุม Print จะใชในการพิมพขอมูลท่ีปรากฏอยูบนหนาจอในขณะน้ัน เมื่อกดปุม Print ส่ิง

ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นคือ ขอความท่ีปรากฏอยูในขณะน้ันจะถูกนําไปพิมพท่ี System

Printer หรือบนเคร่ืองพิมพ ที่ตออยูกับจอภาพของทาน พรอมกับจะม ีMessage แสดง

ใหเห็นวาไดมกีารกดปุม Print ขณะเดียวกัน Keyboard จะถูก Lock ตองใชปุม Error

Reset ในการคลาย Lock ถาเคร่ืองพิมพที่ถูกกําหนดใหพิมพไมสามารถจะพิมพได

จะม ีMessage บอกใหทราบวางานน้ันไมสมบูรณ

14. Page Up, Page Down บนบาง Keyboard บางปุม Page Up และ Page Down จะถกูเรียกวา ปุม Roll ใช

สําหรับดูขอความกอนและหลังหนาจอภายในขณะน้ันได เมื่อมีคาํวา More.... ปรากฏ

อยูท่ีมุมขวาดานลาง บนหนาจอทานสามารถใชปุม Page Down หรือ Roll Up เพ่ือไป

ยังหนาตอๆไปของขอความน้ันได จนกระทั่งมคีําวา Bottom ปรากฏขึ้น ณ ตําแหนง

เดียวกับ More ... ก็แสดงวาถงึหนาสุดทายแลว ในขณะเดียวกันถาตองการยอนไปดขูอ

ความกอนหนาน้ีใหใช Page Up หรือ Page Down

15. System Request Keys เมื่อกดปุม ALT พรอมกับ ปุม System Request จะไดหนา System Request Menu

ซึ่งสามารถเรียกทาํงานบางอยางได เชน สงหรือรับ Message, ยกเลิกงาน เปนตน

16. Field Keys คือสวนท่ีเปนเสนวาง (Input Areas) ซ่ึงจะรอรับขอความใดๆ จาก User สามารถท่ีจะ


เติมคาใดลงไปใน Input Areas น่ันเอง บาง Field จะสั้นมากหรอืยาวเพียง 1-2 ตัว

อักษร บาง Field จะยาวมาก สามารถพิมพเปนคําหรือคาํสั่ง เชน SNDMSG ซึ่ง

หมายถงึการ Send Message น่ันเอง

: บาง Field จะยาวมากกวา 1 บรรทัด คือสามารถจะพิมพสงเปนขอความได

จากรูป เปนตัวอยางของจอภาพที่ใชสงขอความตดิตอกัน ซึ่งจะเห็นวามี Message Text เปน Field ท่ีมีความยาวมากสําหรับขอความเปนประโยคยาว ๆ สวนอีก 2 Field สําหรับขอความเพยีง 1 ตวัอักษรไวสําหรับบอกวา ขอความน้ันตองการใหตอบกลับหรือไม และจะสงขอความไปแสดงท่ีหนาจอของผูใชท่ีเราตองการสงไปใหทันทีในขณะท่ีกําลังทํางานอยู

17. Home Key ใชกรณีนาํ Cursor กลับไปอยู ณ ตําแหนงแรกบน Command Line ไมวาจะอยูใน

Entry Field ใด จะกลับไปอยูท่ี Field แรกเสมอ

18. Tab Key ใชในการยาย Cursor ไปทีละ 1 Field

19. Backspace Keys ปุมนี้จะยาย Cursor กลับไปท่ี Field กอนหนาน้ี ถาใชใน PC กด Shift + Tap สําหรับ

Display Station อ่ืน ๆ สวนใหญสามารถใชปุมนี้ไดเลย

20. Field Exit Key จะทํางานคลายปุม Tab ตางกันตรงที่ตวัอักษรนับจากจุดที ่Cursor อยูจะถูกลบทิ้งทัง้

หมด ดังนั้นกอนใชปุม Field Exit ซึ่งควรให Cursor อยูหลังตัวอกัษรตัวสุดทาย

2. Numbered Function Keys

keyboard ที่ตอกับจอคอมพิวเตอร หรือ ไมโครคอมพิวเตอร สามารถม ีFunction Keys ได 10 ถงึ 24 ตัว

Using the F Keys


หมายเหต ุ รายละเอียดของ Keyboard จะชวยใหทานเขาใจการใช Function Key บน Keyboard ที่แตกตาง

กัน ไดจาก Appendix D ("AS/400 Keyboards")

Personal Computer Keyboards การใช F1 - F10 โดยการกดปุม Function ที่ตรงกบัตัวเลขทีจ่ะใช

การใช F12- F24 โดยการกดปุม Shift คางไว แลวกดปุม Function ที่ตรงกับตวัเลขท่ีตองการใช เชน

F1 ถูกใชเปน F11



การใช F21 - F24 กดปุม Alternative คางไว แลวกดปุม Function Key ที่ตรงกับตัวเลขที่ตองการใช เชน





IBM-Enhanced Personal Computer Keyboard and IBM-Enhanced Keyboard การใช F1 - F12 โดยการกดปุมที่อยูในแถวบนสุดใหตรงกับตัวเลขของ Function Key ที่ตองการ

การใช F13 - F24 กดปุม Shift คางไว แลวกดปุมในแถวบนสุดใหตรงกับตัวเลขของ Key ที่ตองการ เชน




Active Function Keys ในแตละหนาจอภาพท่ีใชทํางานจะมี Active Function Keys ปรากฏอยูดานลางของ Command Line ซึ่ง Active Function Keys เหลาน้ีจะทํางานตามโปรแกรมท่ีควบคุมอยู


A Few Special Function Keys ถึงแมวาจะพบ Function Keys ที่แตกตางกันในหนาจอภาพ หรือหนาเมนู แลวแตจะมบีาง Function Keys ท่ีจะอยูในเกือบจะทุกหนาจอภาพ หรือหนาเมนู เปน Function Keys ที่ใชบอยๆ ไดแก

F1 = Help ถาไมมีปุม Help บน Keyboard สามารถใช F1 เปน Help Key ได

F5 = Refresh เครื่องจะทาํการ Update หนาจอภาพ ท่ีแสดงอยูในขณะน้ัน ใหเห็นถึงสถานะภาพปจจุบัน

F12 = Cancel จะกลับไปยังหนาจอภาพกอนหนาน้ัน

F24 = More Function Key แสดงปุม Function Key นอกเหนือจากท่ีแสดงอยูบนหนาจอ

สรุป Function Key มีคุณสมบัติพเิศษ และมีประสิทธิภาพในการทํางาน แบงเปน 2 ประเภท คือ

- ชนิดมีตัวหนังสือ หรือสัญลักษณบนปุม

- มีตัวเลขกํากับ

มี Keyboard มากมายทีจ่ะใชบนเครื่อง AS/400 ดูรายละเอยีดไดจาก Appendix E 'AS/400 Keyboards' ในหนังสือ AS/400 และ " New User's Guide"

Function Key ที่ใชกันเปนประจาํคือ

F1 = Help

F3 = Exit

F4 = Prompt

F5 = Refresh

F12 = Cancel

F24 = More Keys


Section 4 User Profile and Assistance Levels

ระดับการใชงานในหนา Screen และ รหัสเฉพาะของผูใชเครื่อง (Assistance Levels and Your User Profile)

Assistance Levels การใชงานบนเคร่ือง AS/400 มหีลายระดับในแตละระดับมคีวามแตกตางกันในดาน

: การใชงาน (Terminology Used)

: ประเภทของงานที่สามรถใชได

: Functions และ Options ท่ีแสดงบนจอภาพ

อาจกลาวไดวา ความแตกตางของแตละระดับนั้นกค็ือ ความแตกตางในการตดิตอส่ือสารระหวางผูใชกับเครื่องนั่นเอง ความแตกตางของแตละระดับก็คือ จาํนวนและความซ้าํซอนของหนาจอที่ปรากฏ เมื่อเลือกการใชงานแบบ Basic เครื่องจะกาํหนดจาํนวนหัวขอการใชงานเทาที่จําเปน ถาเลือกการใชงานในระดบั Advance ก็สามารถใชงานกับเครื่องใน Options และ Functions ที่เพิ่มขึ้นทัง้นี้จะมคีวามยืดหยุนและความคลองตัวในการใชงานทีซ่ับซอนเพิ่มขึ้น

AS/400 มีระดับการใชงานอยู 3 ระดับ

1. Basic

2. Intermediate

3. Advance

1.Basic Assistance Level

เปนระดับท่ีกําหนดใหใชงานปกติใน AS/400 โดยไมม ีFunctions หรือ Options พิเศษ


2.Intermediate Assistance Level

เปนระดับที่สามารถใชงานทั้งหมดบน AS/400 โดยสามารถใชงานของ Functions และ Options ตาง ๆ ของแตละจอภาพไดมากขึ้น ทําใหสามารถใชงานท่ีซบัซอนมากข้ึนได

3. Advanced Assistance Level

เปนระดับท่ีมี Function และ Options เหมือนกับ Intermediate Level แตจะเพิ่มจํานวน Workspace บนจอภาพ และมี Options และ Functions ซึ่งปกตจิะไมแสดงบนจอภาพ

การเปล่ียน Assistance Level

ผูใชเคร่ืองสามารถเปล่ียนระดับจาก ระดับหน่ึงไปยังอีกระดับหน่ึงได โดยเปลี่ยนระดับจากจอภาพที่ใชอยูได

เลย (แตไมสามารถเปลี่ยนระดับจาก AS/400 Operational Assistance Level)

หมายเหต ุ: Advance Level นี้จะมีอยูบน System Display เทานั้น

ข้ันตอนการเปล่ียน Assistance Level 1. กด F21 จากจอภาพท่ีใชงานอยูจะปรากฏจอภาพของ Assistance Level ขึ้น (ถาไมสามารถกด F21

ได แสดงวาจอภาพทีใ่ชงานอยูไมมี Assistance Level)

2. จอภาพของ Assistance Level ท่ีปรากฏข้ึนมา จะบอกวาสามารถท่ีจะม ีLevel อ่ืนท่ีใชงานไดอีก

3. เลือก 1 (Basic Assistance Level) หรือ 2 (Intermediate Assistance Level) หรือ 3 (Advance

Assistance Level) แลวกด Enter

4. หลังจากน้ันจอภาพท่ีปรากฏตอไป จะเปนระดับที่ผูใชไดเลือกจนกวาจะมกีารเปลี่ยน Level ใหม

รหัสเฉพาะของผูใชเครื่อง (User Profile and Security Levels) สังเกตไดวา จอภาพของ AS/400 เมื่อ Sign On เขาไปแลว อาจแตกตางกันและความแตกตางของจอภาพน้ัน ถูกกําหนดโดย User Profile และ Security Level

User Profile เปนสิ่งหนึ่งทีเ่ครื่องใชตรวจสอบผูใชวามีสิทธิใ์นการใชเครื่องในการทํางานตางๆ หรือไม


Security Level (ระดับการรักษาความปลอดภัย)

Level 10 (ต่ําสดุ) เมื่อมกีาร Sign On เครื่องจะทําการตรวจสอบวามีการสราง User Profile ไวหรือไม

หากไมมจีะทําการสรางให

Level 20 ตองสราง User Profile ไวกอนเมือ่มีการ Sign On เครื่องจะตรวจสอบวา User Profile

และ Password ที่ทําการ Sign On นั้นตองตรงกับที่สรางไวในเคร่ือง

Level 30 เครื่องจะทําการตรวจสอบเหมือน Level 20 นอกจากนี้ยังตรวจสอบอีกดวยวาผูใชมีสิทธ ิ

ในการทาํงานกับแฟมขอมูล (file) หรือ (Library) ตางๆหรือไม

Level 40 (สูงสุด) ทํางานเหมือน Level 30 แตใน Level 40 นี้จะตรวจสอบใหแนใจวาผูใชมีสิทธิในงาน

และ โปรแกรมที่เรียกใชหรือไม

Changing your user profile หนาจอสําหรับแกไข User Profile สามารถเรียกไดโดย จากหนาจอ Main Menu เรียกขอ 1 จะไดหนาจอ User Tasks Menu เรียกขอ 9 จะไดหนาจอภาพของ Change User Profile พิมพคําสั่ง CHGPRF ที ่Command Line และกด F4

ทานอยากทราบความหมายของ Parameter ใดใหเล่ือน Cursor ไปยัง Parameter น้ันแลวกดปุม Help

จากรูปขางตนทานอาจเลือกเปลี่ยนสิ่งเหลานี้ไดใน User Profile

1. Library เปลี่ยนใหเปน Current Library

2. โปรแกรมที่จะใหเรียกทันทีหลังการ Sign On

3. หนาจอ Menu ที่ตองการหลังการ Sign On


4. ชื่อของ Message Queue

5. วิธีการรับ Message ของทานวาจะเปนแบบใด

6. งานพิมพจะใหไปออกพมิพที่เครื่องพิมพตวัใด

7. เงื่อนไขบางอยางที่กาํหนดใหผูใช เชน การใชปุม Page up/ down หรือ การใหมี Message บอกผูใชเมื่องานพิมพ

ของผูใชน้ันจบลง เปนตน

สรุป สิ่งที่เครื่องใชตรวจสอบผูใชเครื่องเรียกวา User Profile ระดับรักษาความปลอดภัยในเครื่อง เรียกวา Security Level ซึ่งม ี

Level 10 ไมจําเปนตองมีการสราง User Profile

Level 20 เครื่องจะตรวจสอบ User ID และ Password ตองตรงกับที่สรางไว

Level 30 ผูใชตองมีสิทธสาํหรับ Object ที่จะใช

Level 40 ผูใชตองมีสิทธสําหรับงานและโปรแกรมที่จะใช

การเปล่ียน User Profile ทําไดโดย

- เรียกจากหนา Menu

- พิมพคําสั่ง CHGPRF ที ่Command Line และกด F4


Section 5 Using Displays

การใชหนาจอภาพ (Using Displays) การทํางานตางๆบนเครื่อง AS/400 จะตองอาศัยหนาจอภาพทัง้ส้ิน จากบทที่ผานมาทานไดเรียนรูเกี่ยวกับหนาจอ Menu และ Entry Display แลว ซ่ึงเมนูจะเปนหนาจอภาพท่ีมีขอการทํางานใหเลือกใช สวน Entry Display ชวยใหทานทาํงานไดโยตรงกับคอมพิวเตอร

หนาจอภาพมดีวยกัน 4 ประเภท คอื

1. Menu Display เปนหนาจอท่ีมีขอการทํางานใหเลือกใช (Option)

2. Entry Display เปนหนาจอท่ีใหใสคาของ Field

3. List Display เปนหนาจอท่ีแสดงรายการของคาใดคาหน่ึง

4. Information Display เปนหนาจอท่ีเปรียบเสมือนหนังสือ AS/400 เลมหนึง่ที่จะอธิบายถงึสิ่งตางบน

เครื่อง AS/400 ที่ทานกําลังทาํงานอยู

แมการทาํงานของหนาจอภาพเหลานี้แตกตางกัน แตจะมีสวนที่เหมือนกันคือ

Title : ชื่อหนาจอภาพ

Active Function Keys : Function Key ที่จะใชได

Purpose : จุดประสงคของหนาจอภาพนั้น


จากรูปขางตน: เปนหนาจอ Main Menu ของ AS/400 ซึง่ม ีTitle อยูตรงกลางของบรรทัดบนสุด โดยจะมีชื่อยอของแตละเมนู อยูทางมุมซายดานบนเรียกวา Menu ID ซึ่งสามารถใชเรียกหนาจอเมนตูางๆได (ใช GO + Menu ID) มี Active Function Key อยูสวนลางของหนาจอภาพ คือ

F3: = Exit

F4: = Prompt

F9: = Retrieve

F12: = Cancel

F13: = User Support

F23: = Set Initial Menu

1. Menu Display

หนาจอภาพน้ีจะชวยใหผูใชสามารถทํางานไดงายขึน้เน่ืองจากมีสวนท่ีเรียกวา The List Of Option เพ่ือใชเลือกทํางานตามท่ีไดระบุไวในขอน้ันๆ สิ่งนี้จะชวยใหผูใชที่ยงัใหมตอการใชเครื่อง AS/400 สามารถทํางานไดโดยไมตองกงัวลเกี่ยวกับจดจาํคําสัง่ตางๆ

จากรูปขางตน: หนาจอภาพดังกลาวประกอบดวยสวนตางๆ ดังนี ้

1. Title คือสวนของคําวา "AS/400 Main Menu" ตรงกลางบนจอภาพ

2. Menu ID คือสวนของคําวา "Main" มุมบนซายมือ

3. The List Of Option คือสวนของ Option ตั้งแต Option 1, 2, 3, ...11, 90


4. Command Line คือสวนของเสนท่ีเปนลูกศร ==> เราสามารถคยีคําส่ังตางๆ ของ AS/400 ท่ี

เสน Command Line น้ีได

5. Function Key คือสวนของฟงกช่ันท่ีเราเห็นจากหนาจอ เชน F3= Exit, F4= Prompt เปนตน

6. Message Line โดยปกต ิCursor จะอยูที่ Command Line เพ่ือรอรับคําส่ังท่ีผูใชพิมพลงไป

ซึ่งคาํสั่งเหลานั้นจะตองเปนสิง่ที่เครื่องรูจัก ถาหากทานพิมพอะไรลงไปก็ตาม

ที่เครื่องไมรูจกั เชน ชื่อถนน ส่ิงที่ทานไดรับหลังจากกดปุม Enter ก็คือ

ประโยคท่ีวา 'คําส่ังน้ีไมมีในเคร่ือง' หรือประโยคท่ีข้ึนตนดวย .... ไมถูกตอง

การใช Help ในระหวางการทํางานบนเคร่ือง AS/400 หากทานมีความสงสัย หรือไมเขาใจส่ิงหน่ึงส่ิงใด ทานไมจําเปนตองหยุดงานแลวคนหาจากหนังสือ หรือคูมือเน่ืองจากบนเคร่ือง AS/400 ไดจดัเตรียมคําอธิบายตาง ๆ ไวคอยชวยเหลือ เพียงแตทานกดปุม Help เทานัน้ รายละเอียดหรือคําอธิบายที่จะไดรับม ี2 ลักษณะคือ

1. ถาทานกดปุม Help ในขณะท่ี Cursor อยูท่ี Command Line เคร่ืองจะอธิบายเก่ียวกบัหนาเมนูน้ันๆ

2. ถาทานกดปุม Help โดยเลื่อน Cursor ไปอยู ณ. จุดที่ทานตองการคําอธิบาย เครื่องจะอธิบายเฉพาะ

เรื่องนั้นๆ

หมายเหต ุ: รายละเอียดเกีย่วกับเรื่อง Help Information จะไดพูดในบทตอไป

ตัวอยางหนาจอภาพเมื่อกดปุม Help


2. Entry Display เปนหนาจอภาพท่ีปรากฏข้ึนมาเพ่ือใหผูใชใสคาท่ีจาํเปนตองใสเพ่ือนําคาเหลาน้ันไปทํางานตามท่ีตองการ ตัวอยาง เชน

จากรูปขางตน : เปน Entry Display สําหรับคําส่ังในการสราง Library ซึ่งจะประกอบดวย :

1. CRTLIB เปนชื่อของคําสั่ง จะอยูในวงเล็บ 2. ENTRY Fields เปนจดุที่ผูใชตองใสคาในที่นี้คือชื่อของ Library ท่ีตองการสราง 3. คาที่เครื่องกําหนดมาใหเรยีกวาคา Default ซึ่งคานี้สามารถเปลี่ยนแปลงได แตถาผูใชไมแกไขหรือเปล่ียนแปลง

เคร่ืองจะนําคาน้ันไปทํางาน ในทีน้ี่คา Default คือ *PROD ซึ่งผูใชอาจเปลี่ยนเปน *TEST ไดตามตองการ

CHANGING YOUR PASSWORD การเปล่ียนรหัสช่ือ (Password) ของผูใชสามารถทําไดดังนี:้

1. ท่ีcommand line ใชคาํสั่ง GO USER 2. จาก User Menu เลือกขอ 8 = Change your password จะไดหนาจอภาพดังตัวอยาง


แมจะไมมเีสนใหทานใสรหัส ทานก็สามารถพิมพไดโดยใสรหัสชื่อปจจุบัน (Current Password) และรหัสช่ือท่ี

ตองการเปลี่ยน (New Password) หลังจากนั้นกย็ืนยันในรหัสชื่อใหมซ้าํอีกครั้ง (Verify Password) ** รหัสช่ือของผูใชสามารถต้ังไดถงึ 10 ตัวอักษรซึง่อาจเปน A-Z เลข 0-9 อักษรพิเศษ เชน # , $ , หรือ @ โดยรหัสตัวแรกจะเปนตวัเลขไมได

3. LIST DISPLAY เปนหนาจอท่ีจะแสดงถึงรายช่ือหรือรายการของส่ิงใดส่ิงหน่ึงท่ีผูใชตองการใหเคร่ืองดึงออกมาแสดงใหผูใชเห็นบนหนาจอ ไมวาจะเปนรายชื่อของ File, Job, Program หรือ Library เปนตน

รายการท่ีปรากฏใหเห็นอยูในลักษณะเปนแถวๆ (Column) พรอมกับมีขอเลือกการทาํงาน (Option) ใหผูใชใสเพื่อทํางานกับรายการใดรายการหนึ่ง นอกจากน้ีมี Command Line ไวสําหรับพิมพคําส่ังตางๆ ดวย หากรายการที่ปรากฏมีมากกวา 1 หนาจอภาพจะมีคาํวา More . . . อยูทางมุมขวาดานลาง (เหนือ Active Function Key) ซึง่ผูใชสามารถกด


ปุม PgUp และ PgDn เพ่ือดูรายการกอนหนาและหลังได เมื่อดูถงึหนาจอสุดทายของรายการ จะมีคําวา Bottom ขึ้นมาแทนท่ี More... เพ่ือบอกใหผูใชทราบวาหนาจอน้ันเปนหนาสุดทายแลว

4. INFORMATION DISPLAY เปนหนาจอภาพท่ีอธิบายถงึเร่ืองตางๆบน AS/400 เพื่อชวยเหลือผูใชระหวาง การทํางานบนหนาจอ Information Display นับไดวาเปนหนาจอภาพชนิดเดียวท่ีผูใชไมตองใสคาเพ่ือใหเคร่ืองนําไปทํางาน คาํอธิบายที่ไดอาจอยูในรูปประโยคบอกเลา หรือลักษณะเปนแถว ๆ

สรุป

1. หนาจอภาพมี 4 ประเภท - Menu Display - Entry Display - List Display - Information Display 2. สามารถขอคําอธิบายเกี่ยวกับหนาจอภาพตางๆ ไดโดยกดปุม HELP 3. หากใสช่ือ Menu ID ท่ีบรรทัด Menu บนหนาจอ Sign On ทานจะไดหนาจอ Menu น้ันทันทีหลังการ Sign On 4. ใช F23 เพื่อขอเปลี่ยน Menu ใน User Profile 5. ใชหนาจอ Entry Display เพ่ือเปล่ียนรหัสช่ือ (Password) 6. Information Display จะชวยใหคําอธิบายในเรื่องตางๆ แกผูใชเคร่ือง AS/400


Section 6

Using Online Information

การใชคําอธิบายบนหนาจอ (Using Online Information)

จากบทที่ผานมาทานไดรูจักและไดทดลองใชปุม HELP บางแลวในบทน้ีจะไดพูดถึงประเภทของ HELP และวิธีการใช

Online Help Information Extended Help Information Help Information For a field Index Search Information Online Education

EXTENDED HELP INFORMATION เปนคําอธิบายเก่ียวกบัหนาจอภาพตางๆ ของเครื่อง โดยจะอธิบายทั่วๆ ไปเก่ียวกบัหนาจอทําอะไรไดบาง , วิธีการใชหนาจอ , การใชเสน Command Line, การใช Entry Field, การใช Function Key

ทานสามารถด ูExtended Help Information ไดโดย เล่ือน Cursor ไปท่ีจุดใดจุดหน่ึงของบรรทัด Title (บรรทัดแรกของหนาจอ), เสน Command Line ท่ีไมไดพิมพคําส่ัง, จดุใดจุดหนึ่งที่ตองการ แลวกดปุม HELP


ตัวอยางขางตนเปนหนาจอของ User Task Menu หากทานตองการคําอธิบายเก่ียวกบัหนาจอ Menu น้ีใหทาน

เล่ือน Cursor ไปท่ีบรรทัดของ Title (ตรงคาํวา User Task) จากนัน้กดปุม HELP สิ่งที่จะไดคือ Extended Help Information ดังรูปขางลาง:

F13 เปน Function Key ท่ีจะนําทานไปยัง User Support and Education Menu เพ่ือบอกใหทราบวาบนเคร่ือง AS/400 มี Help อะไรบางท่ีทานจะใชไดดังรูป:


HELP INFORMATION FOR A FIELD ในการใชคําส่ังตางๆ บางครั้งทานอาจไมเขาใจถงึความหมายของ Field ที่ทานตองกําหนดคาเพื่อใหเครื่องนําไปทํางาน Help Information ชวยทานไดโดยเล่ือน Cursor ไปท่ี Entry Field น้ันแลวกดปุม Help ทานจะไดคําอธิบายเกี่ยวกับ Field น้ัน ๆ วิธีการใช Help Information For a Field สําหรับหนาจอตาง ๆ ทําไดดงันี้คือ:

Menu Display Help For a Field สําหรับหนาจอชนิดน้ีเปนการอธิบายเก่ียวกับขอการทํางาน (Option) ที่มีอยูในหนาจอนั้น ซึ่งสามารถเรียกได 2 ลักษณะคือ

- พิมพขอการทํางานที่ตองการคาํอธิบายที ่Command Line แลวกดปุม Help - เล่ือน Cursor ไปขอการทํางานที่ตองการแลวกดปุม Help ตัวอยาง:

Entry Display Help For a Field สําหรับหนาจอชนิดน้ีเปนการอธิบายเฉพาะ Input Field ใด Field หนึ่งเทานั้น โดยใหเลื่อน Cursor ไปยัง Field ที่ตองการคาํอธิบายจากนั้นกดปุม Help ดังรปู

ตัวอยาง:


จากรูปขางตนเปนหนาจอ Entry Display ของคําสั่งการเปลี่ยนรหัสชื่อ (CHGPWD) ซึ่งผูใชตองการคําอธิบายในสวนของ Verify New Password เมื่อเลื่อน Cursor ไปยัง Field น้ัน จะไดคําอธิบายในสวนของ Verify New Password เมื่อเลื่อน Cursor ไปยัง Field น้ัน กดปุม Help จะไดคําอธิบายดงักลาว

List Display Help For a Field สําหรับหนาจอชนิดน้ีเปนการอธิบายถึงรายละเอียดขอรายช่ือหรือรายการท่ีปรากฎในแตละแถวท่ีแสดงอยูบนหนาจอน้ัน โดยเล่ือน Cursor ไปที่แถวทีตองการ กดปุม Help ดังรูป:

ตัวอยาง:


Information Display เมื่อทานไดหนาจอภาพของ Help Information แลว ทานไมสามารถกดปุม Help เพื่อดูคําอธิบายใน Help Information น้ันไดอีก (ไมมี Help ซอน Help น่ันเอง) แตสิ่งที่ทานจะไดก็คือคําอธิบายเกี่ยวกับการใช Help เทานั้น คือ ไดหนาจอภาพท่ีเรียกวา How To Use Help

Index Search Information อีกทางหนึง่ของการใหคําอธิบายหรือคนหารายละเอียดในเรื่องตางๆบน AS/400 โดยที่ทานไมตองเสียเวลาคนหาจากในหนังสือก็คือ Index Search จากท่ีผานมาทานจะเห็นไดวา Help Information เปนการใหคําอธิบายเฉพาะสวนหรือพ้ืนท่ีท่ีกําหนดบนหนาจอภาพใดจอภาพหน่ึง แต Index Search จะคนหาถงึเรื่องตางๆทีท่านระบุโดยไมคาํนึงถงึวาจะอยูในหนาจอภาพท่ีเก่ียวกบัเร่ืองน้ันหรือไม การใช Index Search สามารถเลือกใชวิธีใดวิธหีนึ่งดังนี ้ 1. จากหนาจอภาพตางๆ กดปุม Help จะไดหนาจอภาพของ Help Information ใหกด F11 2. จากหนาจอ User Support and Education Menu เลือกขอ 2 กดปุม Enter 3. ใชคาํสั่ง STRIDXSCH ท่ี Command Line

ทานสามารถสอบถามหรือคนหารายละเอียดในเร่ืองท่ีทานตองการโดยพิมพคําพูดเก่ียวกับเร่ืองน้ันๆท่ีเสนเหนือ Function Keys เครื่องจะทาํการนําคําพดูหรือตัวอกัษรที่ทานพิมพลงไป ไปเปรียบเทียบกับตารางท่ีกําหนดไวในเครื่อง เมื่อมีสวนที่ตรงกับเรื่องใดเครื่องจะแสดงบทความทีเ่กี่ยวกับเรื่องนั้นขึน้มาทั้งหมดเพื่อใหทานเลือกอาน ตัวอยาง เชน ทานตองการใหเครื่องคนหาเกี่ยวกับประโยคที่วา “I want to send a note to my good friend , Frieda” จากประโยคนีเ้ปนเรื่องราวเกี่ยวกับการสงขอความใหเพื่อน ดังนั้น Index Search จะแสดงถึงบทความที่เกี่ยวของกันขึ้นมาใหทานจากนั้นทานก็เพียงแตเลือกบทที่ทานตองการแลวใส Option 5 หนาบทความน้ัน ทานจะไดรายละเอียดของเรื่องนั้น

Online Education บน AS/400 มีระบบการศกึษาบนเครื่องซึ่งบางหลักสูตรไดกาํหนดมาพรอมกับเครื่อง สวนบางหลักสูตรก็ตองเสียคาใชจายเพิ่มเติม ทานสามารถเลือกศกึษาไดตามประเภทของผูที่จําเปน เชน ถาทานเปนผูควบคมุเครื่อง (System Operator) ทานสามารถท่ีจะเลือกบทเรียนท่ีเก่ียวกับ System Operator หลักสูตรอ่ืนๆ อาจไดแก ... Computer Fundamental ... How to Use AS/400 Menu ... Working with System Display ... How to Use Help Support ... How to Use Online Education

การศึกษาในแตละเรื่องจะใชเวลาไมเกิน 30 นาที การใช Online Education ทําไดโดยวิธีใดวิธีหนึง่ดังนี ้ 1. จาก Main Menu เลือก Option 10 จากน้ันเลือก Option 9 เพือ่เริ่มตนการใช Online Education


2. จากหนา Menu ใดๆ ก็ตามใหกด F13 เพื่อเรียก User Support & Education Menu จากนั้นเลือก Option 9 3. ท่ี Command Line ใชคําสั่ง GO SUPPORT จากน้ันใหเลือก Option 9 4. ท่ี Command Line ใชคําสั่ง STREDU

สรุป: - Extended Help Information จะบอกรายละเอียดเกีย่วกับ .. หนาจอภาพทําอะไรไดบาง .. การใชหนาจอภาพตางๆ .. การใชเสน Command Line .. การใช Entry Fields .. การใช Function Keys - Field Help Information อธิบายถึงการใสคาลงใน Field น้ัน - Index Search Information สามารถคนหาเรื่องตางๆที่ทานตองการจากคาํถามในรูปประโยคคาํพูดของทานเอง - Online Education เปนระบบการศึกษาจากเครื่องซึง่มีเนื้อหาในเรื่องตางๆใหทานเลือกศึกษาเองได


Section 7 Message

ขาวสาร ขาวสารมีทั้งผูใชตดิตอกับเครื่อง หรือ ผูใชเครื่องติดตอระหวางผูใชเครื่องดวยกัน โดยทั่วไปมีอยู 2 ประเภท 1. Information Message เปนขอความที่ไมตองการคาํตอบ เปนเพียงขางสารที่แจงใหทราบเทานั้น 2. Inquiry Message เปนขอความที่สงไปแลวตองการคําตอบกลับมาดวย

Message Queue เม่ือขาวสารท่ีสงมาไมสามารถปรากฏบนจอภาพในทันทีได ขาวสารเหลานี้จะถูกเก็บไวใน Message Queuesดังนั้น Message Queues ก็คือท่ีสําหรับเก็บขอความหรือขาวสารท่ีไดรับ ขาวสารเหลานี้สามารถท่ีจะถูกเรียกขึ้นมาแสดงบนจอภาพไดอีก เมื่อเปดจอภาพจะมี Message Queues เกดิขึ้น 2 Message Queues คือ User Message คือ ขาวสารที่ถูกสงมายงั ชื่อ ของผูใชจอภาพ Workstation Message คือขาวสารที่ถูกสงมายังจอภาพท่ีถูกใชงานอยู

แหลงที่มาของขาวสาร (Message Sources) - เครื่องคอมพวิเตอร (AS/400 System) - โปรแกรมที่ใชงาน (Application Program)

- ผูใชเครื่องอื่นๆ (Other Users)

ขาวสารเหลานี้จะปรากฏขึน้บนจอภาพได 3 รูปแบบ 1. Message Line จอภาพจะมีบรรทัดลางสุดสําหรับแสดงขาวสาร ซึ่งขาวสารท่ีจะแสดงบน Message Line น้ี

จะมาจาก System หรือ Application Program เทานั้น โดยขาวสารที่ปรากฏจะเปนขาวสารเกีย่วกับสถานภาพของเครื่องหรือขอผิดพลาดของผูใชเคร่ือง

2. Message Line Help ผูใชสามารถหาสาเหตุของขาวสารที่เกดิขึ้นที ่Message Line ไดโดยการเล่ือน Cursor ลงมายงั Message Line แลวกด Help จะปรากฏขอความที่บอกถึงสาเหตุของการเกิดขาวสาร

3. Break Message Display คือขาวสารที่ปรากฏที่จอภาพของผูใชทันที ไมวาจอภาพของผูใชจะใชงานอะไรอยูก็ตาม ขาวสารประเภทนี้สามารถสงไดทั้งแบบ Information และแบบ Inquiry เมื่อขาวสารประเภท Break Message ปรากฏขึ้นที่จอภาพผูใชสามารถกลับไปยังจอภาพเดิมหรืองานเดมิไดโดยกด Enter


Work With Message Display

ขาวสารตางๆโดยปกติจะถูกเก็บไวใน Message Queue ขาวสารเหลานี้สามารถที่จะเรยีกดูไดอกี โดยใชจาก Work With Message Display แลวเลือกขอ 3 จาก AS/400 Operation Assistance Menu การสงขาวสาร (Sending Message) ผูใชสามารถสงขาวสารไปยังบุคคลอื่น ที่ใชเครื่องคอมพิวเตอรดวยกันไดโดยใชจาก AS/400 Operation Assistance Menu แลวเลือกขอ 4 (Send A Message)

Message Needs Reply : ใชสําหรับระบุวาขาวสารที่สงไปนั้น ตองการใหผูรับตอบขาวสารกลับหรือไม โดยถาเลือก N หมายถงึ ขาวสารที่ไมตองการรับคําตอบกลับ Y หมายถงึ ขาวสารที่ตองการรับคําตอบกลับ

Interrupt User : ใชสําหรับระบุวาขาวสารท่ีสงไปน้ันตองการแสดงข้ึนบนจอภาพของผูรับทันทีหรือไม โดยถาเลือก N หมายถงึ ไมตองการใหปรากฏข้ึนบนจอภาพของผูรับทันที แตใหสงเขาไปใน Message Queue ของผูรับ Y หมายถงึ ตองการใหปรากฏข้ึนบนหนาจอภาพของผูรับทันที

Message Text : ใชสําหรับระบุขอความที่ตองการสง

Send To : ใชสําหรับระบุชื่อผูรับขาวสาร


*ALL หมายถงึ ขาวสารที่จะสงถึงผูใชทุกคนที่มีสิทธใชเครื่อง *ALLACT หมายถงึ ขาวสารทีจ่ะสงถงึผูใชทกุคนที่กาํลังใชเครือ่งอยูขณะนั้น ถากรณีลืมชื่อของผูรับ

ก็สามารถกด F4 เพื่อแสดงรายชื่อของผูใชทั้งหมดได

Function Keys : กด F10 เมื่อตองการสงขาวสารไปยังผูอื่น กด F12 หรือ F3 เมือ่ตองการยกเลิกการสงขาวสาร

Message Delivery Modes : วธิีการสงขาวสารม ี 4 วิธี คือ - *Notify เปนขาวสารประเภทท่ีมีเสียงพรอมแสดงสัญลักษณ - *Break เปนขาวสารท่ีจะ Break การทํางานของผูรับขณะน้ันช่ัวคราว เพ่ือแสดงขาวสารทันที - *Hold เปนขาวสารประเภทที่จะเก็บไวใน Message Queue จนกวาจะมีการเรียกขึ้นมาด ู - *Default เปนขาวสารท่ี System จะเปนตวัตอบกลับไปเอง


Section 8 Managing Your Work

การจัดการงานตางๆในเคร่ือง ความสามารถพิเศษอีกอยางของเคร่ือง AS/400 กค็ือ การชวยเหลือทานในการจัดการงานตางๆเนื่องจากอาจมีผูใชเครื่องในเวลาเดยีวกันหลายๆคนหรือมีการใชเครื่องพิมพหลายๆเครื่องในเวลาเดียวกัน เปนตน ซึ่งอาจทําใหเกดิความสับสนหรือยุงยาก ระบบของเคร่ือง AS/400 จึงถูกออกแบบมาเพ่ือปองกันปญหาเหลาน้ี JOB CLASSIFICATIONS

งานของเครื่อง AS/400 ที่ตองกระทําคือ 1. เรียกโปรแกรมทํางาน 2. ทํางานตามคําส่ังตางๆ

ลักษณะงานในเครื่องสามารถแบงออกได 2 ลกัษณะคือ 1. Interactive Jobs 2. Batch Jobs 1. Interactive Jobs เปนงานท่ีเนนการส่ือสาร 2 ทางคือ ระหวางผูใชจอภาพกับเครื่องคอมพิวเตอร ซึ่งเริ่มตัง้แตผูใช Sign On เขาไปทํางานจนกระทัง่ Sign Off เมื่อจบงาน ข้ันตอน Interactive Jobs คือ - ใสขอมูลที่หนาจอภาพ - เคร่ืองรับขอมลูเขาไปทํางานและใหผลลัพธออกมา - ผูใชไดรับผลลัพธทันที จากนั้นสงขอมูลเขาไปทํางานใหม

Job Name เครื่องจะกาํหนดชื่อใหกับทุกงานในเครื่องไมวาจะเปน Interactive Job หรือ Batch Job ซึ่งชื่อเหลานี้จะประกอบดวย 3 สวนคือ: 1. Job Number: หมายเลขของงาน เคร่ืองเปนผูกําหนด 2. User ID: ชื่อ Sign On เขามาทํางานจากหนาจอ Sign On Name Of Display 3. Station: จอภาพทุกจอทีเ่ชื่อมตอกับเครื่องคอมพิวเตอรตองมชีื่อเฉพาะของจอนั้นๆ (ชื่อนี้อาจถูกกาํหนดจากผูใช เองหรือจากเคร่ือง)


ตัวอยาง: Job Name-Interactive: 000052/MSC/DSP03

2.Batch Jobs เปนลักษณะงานที่เมื่อผูใชสงงานเขาไปใหเครื่องทาํแลว ทั้งผูใชและจอภาพนั้นก็สามารถไปทํางานอยางอื่นได ไมจําเปนตองมีการสื่อสารตอเนื่องระหวางผูใชกับเครื่อง เนื่องจากขอมูลตางๆ ไดถูกสงเขาไปรอทํางานในเคร่ืองแลว เนื่องจากอาจมีผูสงงานเขาไปรอเปนจํานวนมาก แตเครื่องจะดึงงานมาทําไดครั้งละ 1 หรือ 2-3 งาน ดังนั้นจึงมกีารเก็บงานเหลานั้นเขาไปไวใน Job Queue (เหมือนการเขาแถวเรียงคิว) ซึ่งเมือ่เครื่องทํางานใดงานหนึ่งเสร็จเรียบรอย ก็จะไปดึงงานตอไปใน Job Queue มาทําตออยางน้ีไปเร่ือยๆจนกวางานใน Job Queue จะหมด ดงันั้น Batch Job จะเร่ิมตนจากใน Job Queue ไมใชจากการ Sign On

Job Name เมื่อมกีารสงงานเขาไปใน Job Queue เครื่องจะกาํหนดชื่อ ซึ่งจะประกอบดวย 3 สวน คือ

1. Job Number: หมายเลขของงาน เคร่ืองเปนผูกําหนด 2. User ID: ชื่อที่ Sign On เขามาทํางานจากหนาจอ Sign On 3. User Defined Job Name: เน่ืองจาก Batch Job ไมไดทํางานเชื่อมตอกับจอภาพดังนั้นจึงไมสามารถนาํชื่อของจอ ภาพน้ันๆ มาใชได ผูใชตองเปนผูกําหนดชื่อเอง ซึง่สวนใหญแลว Programmer มักเปน ผูกําหนดให ตัวอยาง: Job Name-Batch: 000543/MSC/MREPORT

Using Output Queues and Spooled Files เมือ่ทํางานเสร็จเรียบรอยแลว ผลลัพธท่ีไดจะยังไมถูกพิมพเน่ืองจาก OS จะจัดการงานพิมพเหลานีใ้หอยูในรูปของ Spooled File เสียกอน ดังนัน้แตละงานก็จะมแีตละ Spool File และอยูรวมกันใน Output Queue จากนั้น Spool File จะถูกสงไปพิมพที่เครื่องพิมพตามลําดับ Spool File คงอยูใน Output Queue ตลอดเวลา งานพิมพตางๆจะถูกพิมพออกจากเครื่องพิมพไดนั้นจะตองมีการใชโปรแกรมของเครื่องที่เรยีกวา Printer Writer ซึ่งทําหนาท่ีอาน Spool File จาก Output Queue และสง Spool File เหลาน้ันไปท่ีเคร่ืองพิมพเพ่ือพิมพผลลัพธตางๆทานสามารถเรียกโปรแกรมน้ีไดจากหนาจอภาพ Work with Printers หรือใชคําสั่ง STRPRTWTR (Start Printer Writer)

รูปแบบของงานพิมพถกูกําหนดใน Printer Device File Description ซ่ึงจะระบุเก่ียวกับ: 1. เครื่องพิมพทีจ่ะใชพิมพ 2. Output Queue ที่ใช 3. แบบฟอรมท่ีจะใชพิมพผลลัพธ 4. จํานวนสําเนา (Copy) ก่ีฉบับ


Controlling Spooled Files โดยปกติผูใชสามารถควบคมุ Spool File ของตนเองใน Output Queue ไดอยางไรก็ดีผูมีอํานาจสูงสุดในเคร่ือง คือ Security Officer ก็เปนผูที่สามารถจํากดัสิทธิของผูใชแตละคนในการควบคมุ Spool File ตางๆ ไดในที่นี้ใหสมมตุิวาทานมีสิทธิเตม็ที่ในการควบคุม Spool File กลาวคือสามารถหยดุการพิมพ (Hold) ปลอยงานพมิพ (Release) และยกเลิกงานพิมพ (Delete) ทานสามารถดูรายละเอียดเกีย่วกับ Spool File หรือดู Output Queue ไดจากหนาจอ Menu User Tasks เลือกขอ 5 - Work with your spooled files ดังรูป

จากรูปขางตน: ทานสามารถใชปุม PgUp หรือปุม PgDn ในการด ูSpool File ที่มีมากกวา 1 หนาไดนอกจากน้ีมี Option ใหทานเลือกใชเกีย่วกับ Spool File ดังนี้:


Option Description 1 = Send : ใชสง Spool File ไปยังเครื่องอืน่ 2 = Change : ใชสําหรับเปล่ียนฟอรมงานพิมพ หรือจํานวนสําเนา 3 = Hold : ใชสําหรับหยุดงานพิมพช่ัวคราว 4= Delete : ใชสําหรับยกเลิกงานพิมพที่ไมตองการทิง้ไป 5 =Display : ใชดูขอมูลหรือรายละเอียดใน Spool File กอนการพิมพ 6 = Release : ใชสําหรับปลอยงานพิมพที่ถกูหยุดโดย Option 3 ใหทํางานตอ 7 = Message : ใชดู Message ท่ีสัมพันธกับการพิมพของ Spool File 8 = Attribute : ใชดูคุณสมบตัิที่ถูกระบุไวที่ Spool File น้ัน 9 = Work printing status : ใชดูสภาวะการพิมพของ Spool File

ถาทานตองการทํางานใน Option ใดใหใสหมายเลขที่ตองการใน Column ที่มีคําวา Opt ซึ่งอยูทางซายของ Spool File ดังรูป จะไดหนาจอ Work with All Spooled File

หมายเหต:ุ ในการใช Option 4 เพ่ือยกเลิกส่ิงใดก็ตามในหนาจอภาพตางๆน้ัน ทานจะไดหนาจอภาพยืนยันการยกเลิกนั้นอีกครั้ง (Confirm) ซึ่งถาทานตองการยกเลิกใหทานกดปุม Enter, Spool File นั้นจะหายไปจากเครื่องทันทีแตถาทานเปล่ียนใจไมตองการท้ิง Spool File น้ัน ใหทากดปุม F12, Spool File จะยังคงอยูใน Output Queue ตามเดิม

สรุป ลักษณะของงานที่เปน Interactive Jobs: - ตองการตอบรับจากเคร่ืองทันที - เร่ิมตนและทํางานกับหนาจอภาพ - ตองการผูใชในการใสขอมูล - เริ่มตนตั้งแตผูใช Sign On - จบงานเมื่อผูใช Sign Off

ลักษณะของงานที่เปน Batch Jobs: - ไมตองการผูใชในระหวางทํางาน - ไมตองใชหนาจอภาพระหวางทาํงาน - เริ่มตนจาก Job Queue - จบเมื่อทํางานสุดทายเสร็จเรียบรอย


Section 9

Controlling Control Language การใชคําสั่ง การทํางานบนเคร่ือง AS/400 จะใชคาํสั่งตางๆ เปนตวัสั่งการใหเครื่องทํางานตามตองการ ซึ่งคําสั่งนั้นอาจจะอยูในรูปของขอการทํางาน (Option) จาก Menu หรือการใช Function Key นอกจากนี้เรายังสามารถใชรูปแบบคําส่ังโดยตรงได ที่เราเรียกวา Control Language หรือ CL

โครงสรางของ CL (CL STRUCTURE) ในแตละคาํสั่งจะมีรูปแบบที่เหมอืนกันโดยประกอบดวย 2 สวน คอื Command Name และ Parameters

คําสั่งจะอยูในรูปของคาํยอ ท่ีแสดงถงึลักษณะอาการกระทํา (Action) ของคาํสั่งนั้น เชน Function Key(Verb) Command(Prefix) Create CRT Display DSP Change CHG Work With WRK Start STR ชื่อคําสัง่เปนการระบุวาผูใชตองการกระทํากับสิ่งใด เชน Action/Object Command Display Library DSPLIB Create Physical File CRTPF Add Job Queue Entry ADDJOBQE Parameters คําสั่งของ AS/400 ทํางานไดโดยใชโปรแกรมในเครื่องซึง่จะทาํงานตามคาตางๆ (Parameters) ที่เรากําหนดไวในคําสั่งนั้น ตวัอยาง เชน เม่ือผูใชตองการสราง Library สําหรับงานใดงานหนึ่งขึ้นมา คาํสั่งที่ตองใชคือ CRTLIB (Create Library) แตการสราง Library ตองระบุวาจะสราง Library ช่ืออะไร ดังนั้นจึงตองมกีารระบุชื่อของ Library ตามที่ตองการ คาท่ีจะระบุสําหรับช่ือของ Library เราเรียกวา Parameters ซ่ึงอาจจะมีหน่ึงหรือหลายๆ Parameters ในคาํสั่ง หรืออาจจะไมจําเปนตองใส Parameters เลยก็ได


รูปแบบของการใชคําสัง่สราง Library

CRTLIB parameter parameter parameter

ในคําสัง่จะมี Parameter หน่ึงท่ีใชระบุช่ือของ Library ที่ตองการจะสรางซึง่เราจําเปนตองทําใหเครือ่งรับรูวาคาที่เราไดระบุลงไปน้ันเปนคาของ parameter ตัวใดและมีคาเปนอะไร

KEYWORDS & VALUES Keyword เปนตัวบงชี้ถงึ Parameter สวน Value เปนคาของ parameter น้ันๆ ที่เครื่องจะนาํไปทํางานคาเหลานี้อาจเปนคาที่ทานระบุเอง หรืออาจเปนคาของเคร่ืองท่ีไดระบุไวแลวก็ได ตัวอยาง : Command Parameter CRTLIB LIB(Smith) LIB เปน Keyword, Smith เปนคา Value MORE ON VALUES คาของ parameter อาจจะเปน 1. คาที่ผูใชกําหนดเอง (User-Defined Value) 2. คาที่เครื่องกําหนดไว (System-defined value) คาที่ผูใชกําหนดเองอาจจะเปนคาอะไรก็ได เชน ชื่อคน ช่ือยอตางๆ เปนตน อยางไรก็ตามคาที่ระบคุวรเปนคาที่สามารถบอกถึงความสัมพันธของ Parameter น้ันได เชน การสราง Library เกี่ยวกับงานบัญช ี(General Accounting) ควรตัง้ชื่อ Library ดังนี้ : CRTLIB LIB(GALIB) คาทีเ่ครื่องไดกาํหนดไว จะเปนเครื่องคาที่มีเครือ่งหมาย * นําหนา เชน CRTLIB LIB(GALIB) TYPE(*PROD) AUT(*LIBCRTAUT) TEXT(*BLANK)


LIB เปน Keyword ท่ีมีคาเปนช่ือของ Library ซึ่งผูใชเปนผูกําหนดเอง TYPE เปน Keyword ท่ีมีคาเปนของ System กําหนดไว ซ่ึงผูใชสามารถเลือกระบุได 2 คาดวยกันคือ *PROD (Production) และ *TEST (Test) AUT เปน Keyword ท่ีมีคาเปนของ System กําหนดไวเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยของ Library น้ันๆ

REQUIRED AND OPTIONAL PARAMETERS Parameter ของแตละคาํสั่งแบงออกเปน 2 ชนิดคือ 1. Required Parameter คือ Parameter ที่ผูใชจะตองใสมิฉะนั้นแลวเครื่องจะไมทาํงานตามคาํสั่งนั้น Parameter นี้จะ มีลักษณะที่เห็นเดนชัดคือ เปนเสนเรืองแสงและจะอยูเปนลําดับแรกเสมอ 2. Optional Parameter คือ Parameter ที่ผูใชจะใสหรือไมใสกไ็ด ซึ่งถาไมไดคาลงไป เครื่องจะใชคาทีม่ีกําหนดไว (Default) แทน

ขอพึงสังเกต : - Required และ Parameter ที่ใชมากจะอยูเปนลําดับแรกๆ เสมอ - Optional และ Parameter ที่ใชนอยจะอยูในลําดับถัดไป

WHERE TO ENTER A CL COMMAND เราสามารถพมิพคําส่ัง (CL Command) ตางๆ ในการทาํงานไดที่เสน Command Line จะมีปรากฏอยูในหนาจอ Menu ทุก Menu เพื่อใหสะดวกตอผูที่ใช Menu อยูในขณะนั้น สามารถพิมพคําส่ังจากหนาจอ Menu น้ันไดเลย

Command Entry Display หนาจอ Command Entry Display เปนหนาจอท่ีไดสรางข้ึนเพ่ือประโยชนของผูใชในการ: 1. พิมพคําสั่ง (Enter Command) 2. ดูคําสั่งทีใ่ชไปแลว (Review Command) 3. เรียกคาํส่ังเกามาใชอกี (Retrieve Command) 4. รับขอความที่บอกถงึสาเหตุของความผิดพลาดจากการทํางาน (Receive Message)

หากทานตองการไดหนาจอ Command Entry Display ใหพิมพคําสั่งดงันี้ CALL QCMD


จากรูปขางตน เปนหนาจอ Command Entry Display ซึ่งจะมีสวนที่เรียกวา History Area เปนสวนที่แสดงถึงคําสัง่ที่ทานไดเคยใชไปแลวกอนหนานี้นอกจากนี้ยงัสามารถเยกคาํสั่งเกามาใชไดอีกโดยไมตองเสยีเวลาพิมพใหม เพียงกด F9 (Retrieve) เทานั้น F9 : สามารถใชไดที่ Command Line ในแตละหนาจอ Menu ดวย (ดูรายละเอียดเพิ่มเตมิเกีย่วกับการใช Command Entry Display ไดจากหนังสือ CL Programmer’s Guide)

How To Enter a CL Command คําสั่งบน AS/400 มคีา Parameter ตาง ๆ มากมายที่ผูใชจะตองใสเพื่อใหเครื่องนําคาเหลานั้นไปทํางาน การเรียกหนาจอเพื่อแสดง Parameter สามารถทาํไดโดยใช Prompting หรือหนาจอ Command Prompt Display (คือการพิมพคําสั่ง และกด F4) ถาหากทานจําคําส่ังท่ีจะใชทํางานไมได ใหกด F4 ท่ี Command Line ทานจะไดหนาจอ Major Command Group Menu ดังรูป


USING THE FREE FORMAT METHOD ถาหากทานไดใชคาํสั่งใดคาํสั่งหน่ึงอยูเสมอๆ ทานสามารถจาํคาํส่ังและ Parameter ของคําสัง่นั้นไดโดยไมตองใช Prompt Display ทําใหทํางานไดเร็วขึ้นเนื่องจากการใช Prompt Display จะตองใชหนาจอภาพมากขึ้นและเวลาทีใ่ชในแตละหนาจอกม็ากตามไปดวย ดังนั้น ทานอาจเลือกใชการพิมพคําส่ังและคา Parameter ท่ี Command Line ไดเลย ซึ่งเปนวิธีการใชคาํสั่งแบบ Free Format โดยมีรูปแบบดังนีค้ือ 1. มีชองวางระหวาง Parameters 2. คา Parameters อยูภายในวงเล็บ ตัวอยาง : จากเรื่องที่ผานมาไดใชคาํสั่งเกี่ยวกับการสราง Library ดังนี ้ CRTLIB LIB(PAYLIB) TYPE(*PROD) AUT(*LIBCRTAUT) TEXT(*BLANK) จะเห็นวาประโยคขางตนประกอบดวย CRTLIB เปนคําส่ังสราง Library มี 4 Parameters คือ 1. LIB ชื่อของ Library 2. TYPE ประเภทของ Library 3. AUT มีสิทธิอํานาจ 4. TEXT คําอธิบาย Parameter ลําดบัท่ี 2 - 4 สามารถใชคา Default (คาที่เครื่องกาํหนดไว) Parameter LIB กําหนดวาตองใสคา ดวยเหตุนีก้ารใสคาลงใน Parameter ทานเพียงแตใสคาที่ตองการลงใน Parameter ที่บังคับวาตองใสเทานั้น สวน Parameter อื่นที่ทานจะใชคา Default ทานก็ไมจาํเปนตองใส เนื่องจากเครื่องจะดึงคาที่กําหนดไวไปทํางานทันที ดงัตวัอยาง


สรุป CL Command ประกอบดวยชื่อ Command และ Parameter, Parameter ประกอบดวย Keyword และ Value Value ของ Parameter อาจจะเปนคาของผูใช หรือเปนคาที่เครื่องกําหนดไว (System Defined) ซึง่มักขึ้นตนดวย (*) Parameter จะถูกบงัคับวาตองใสคา สวนบางตัวจะใสหรือไมใสก็ได ซึ่งจะใชคา Default แทน การพิมพคาํส่ังสามารถพมิพได 2 วิธีคือ 1. ใช Command Prompt Display โดยพิมพคําสัง่ที ่Command Line แลวกด F4 2. ใช Free Format จะใชไดกับคาํสั่งที่ใชอยูเสมอ ๆ จนสามารถจาํได โดยพิมพคาํสั่งที ่Command Line

Documents

As 400 Manual2