Upload
wilma
View
74
Download
4
Tags:
Embed Size (px)
DESCRIPTION
โปรแกรม คอมพิวเตอร์ช่วยสอน Microsoft Office Power Point ) เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับสัมผัส. การรับรู้และการตอบสนองต่อสิ่งเร้า. เซลล์ประสาท. การทำงานของเซลล์ประสาท. ศูนย์ควบคุมการทำงานของระบบประสาท. การทำงานของระบบประสาท. อวัยวะรับสัมผัส (ตา). อวัยวะรับสัมผัส (หู จมูก ลิ้น ผิวหนัง). - PowerPoint PPT Presentation
Citation preview
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
1
โปรแกรม คอมพวิเตอรช์ว่ยสอน Microsoft Office Power Point )
เรื่อง ระบบประสาทและอวยัวะรบัสมัผัสก�รรบัรูแ้ละก�รตอบสนองต่อสิง่เร�้
เซลล์ประส�ท
ก�รทำ�ง�นของเซลล์ประส�ท
ศูนยค์วบคมุก�รทำ�ง�นของระบบประส�ท
ก�รทำ�ง�นของระบบประส�ท
อวยัวะรบัสมัผัส (ต�)
อวยัวะรบัสมัผัส ( หู จมูก ล้ิน ผิวหนัง)
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
2
เรื่อง การรบัรูแ้ละการตอบสนองต่อสิง่เรา้
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
3
กระแสประส�ท
แผนภาพท่ี กระบวนการรบัรูข้องสิง่มชีวีติ
สิง่เรา้ หน่วยรบัความรูส้กึ
กระแสประส�ท
ระบบประสาท หน่วยรบัความรูส้กึ
StimulusReceptorimpluse
Nervous System Effectorsimpluse
Response
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
4
ภาพท่ี 1 วงจรการรบัรูแ้ละการตอบสนองของสิง่มชีวีติท่ีมา : http://mulinet6.li.mahidol.ac.th/cd-rom/cd-rom0311t/ch1/chapter1/part_3.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
5
หน้าท่ีของระบบประสาท
หน้าท่ีของระบบประสาทแบง่ออกเป็น 3 สว่น1 .นำาสญัญาณประสาท จากหน่วยรบัความรูส้กึ
(receptor)ไปยงัศูนยท่ี์อยูใ่นระบบประสาทสว่นกลาง : Sensory input
2. รวบรวมขอ้มูลและแปรผล : integration3. นำาคำาสัง่ จากศูนยส์ัง่การไปยงัหน่วยตอบ
สนอง effectors : motor output
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
6
การตอบสนองของสิง่มชีวีติเซลล์เดียวและสตัวบ์างชนิด
ภ�พท่ี 2 สิง่มชีวีติเซลล์เดียวและสตัวบ์�งชนิดท่ีม� http://mulinet6.li.mahidol.ac.th/cd-rom/cd-rom0311t/ch1/chapter1/part_3.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
7
ก�รพฒัน�ของระบบประส�ทไปเป็นสมองและไขสนัหลัง
ภ�พท่ี 3 สมองและไขสนัหลังท่ีม�: http://computer.act.ac.th/webproject5_2548/st/m51/Nervous/cnspic.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
8
ในขณะท่ีเป็นเอมบรโิอมลัีกษณะเป็นหลอดกลวง เรยีกว�่ neural tube ท่ีโป่งออกแบง่ออกเป็น 3 สว่นคือ สมองสว่นหน้� สมองสว่นกล�ง
สมองสว่นหลัง และสว่นไขสนัหลัง
ภ�พท่ี 4 neural tubeท่ีม� : http://www.uoguelph.ca/zoology/ devobio/210labs/neuraldevel1.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
9
ภ�พท่ี 5 ก�รพฒัน�ของ neural tube ไปเป็นสมองและไขสนัหลัง ในระยะเป็นเอมบรโิอ
ท่ีม� : http://thebrain.mcgill.ca/flash/i/i_09/i_09_cr/i_09_cr_dev/i_09_cr_dev.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
10
ภ�พท่ี 6 เอมบรโิอระยะท่ีมกี�รเจรญิพฒัน�ของ neural tube ไปเป็นสมองท่ีม�: http://www.uoguelph.ca/zoology/ devobio/2 1 0 labs/brainchart.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
11
เรื่อง เซลล์ประสาท
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
12
ภ�พท่ี 7 เซลล์ประส�ทของมนุษย์ท่ีม� : http://www.emc.maricopa.edu/faculty/ farabee/BIOBK/BioBookNERV.html#Nervous%2 0 Systems
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
13
ภ�พท่ี 8 เซลล์ประส�ทของมนุษย์ท่ีม� : http://www.emc.maricopa.edu/faculty/ farabee/BIOBK/BioBookNERV.html#The%20Neuron
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
14
การสรา้ง myclin sheath ท่ีติดต่อกับ schwann cell
ภ�พท่ี 9 ก�รมว้นตัวของ schwann cellท่ีม� :
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
15
ภ�พท่ี10 ก : ภ�พก�รสร�้งเยื่อไมอีลิน ข : ภ�พจำ�ลองแสดงเสน้ใยประส�ทท่ีมเียื่อไมอีลินหุม้ (ตัดต�มขว�ง)และภ�คตัดขว�งของเยื่อไมอีลินติดต่อกับเซลล์ชวนัน์ ท่ีม� : http://mulinet6.li.mahidol.ac.th/cd-rom/cd-rom0311t/ch1/chapter1/part_3.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
16
Cell Body, Axon, and Dendrites
ภ�พท่ี 11 ลักษณะของเซลล์ประส�ทท่ีม� : http://www.usm.maine.edu/psy/broida/101/neuron.JPG
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
17
• Axon ถกูหอ่หุม้ด้วยปลอกไมอีลิน (myelin sheath ) ซึ่งมลัีกษณะคล้�ยโซท่ี่มลีกูปัดหล�ยอันรอ้ยอยู่
• ลกูปัดแต่ละอันคือ Schwann cell• ชอ่งระหว�่ง Schwann cells เรยีกว�่ nodes of
Ranvier ซึ่งเป็นบรเิวณท่ีมกี�รถ่�ยทอดสญัญ�ณประส�ท
ภ�พท่ี 12 Axon ท่ีมเียื่อไมอีลินหอ่หุม้ท่ีม� :http://www.fotosearch.com/LIF1 4 5 /pdb0 1 0 1 0 /
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
18
• บรเิวณปลายของ axon เรยีกวา่ synaptic terminal ซึง่ทำาหน้าท่ีถ่ายทอดสญัญาณไปยงัเซลล์เป้าหมายโดยการหลัง่สารสื่อประสาท (neurotransmitter)
• เซลล์เป้าหมายอาจเป็นเซลล์ของ effector (เชน่เซลล์กล้ามเนื้อ ) หรอือาจเป็นเซลล์ประสาทอีกเซลล์หนึ่งก็ได้
• บรเิวณท่ีมกีารติดต่อระหวา่ง synaptic terminal กับเซลล์เป้าหมาย เป็นชอ่งวา่งเล็กๆ เรยีกวา่ synapse
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
19
ภ�พท่ี 13 สว่นประกอบของเซลล์ประส�ทท่ีม� :http://computer.act.ac.th/webproject5 _2 5 4 8 /st/m5 1 /Nervous/Nakpump.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
20
ภ�พท่ี 14 เซลล์ประส�ทในสตัวช์ัน้สงูท่ีม� : http://www.fotosearch.com/LIF1 4 5 /pdb01010/
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
21
เซลล์ประส�ทจำ�แนกต�มโครงสร�้งแบง่ออก เป็น 3 ประเภท
1 .เซลล์ประส�ทขัว้เดียว (unipolar neuron)2. เซลล์ประส�ทสองเดียว (bipolar neuron)3. เซลล์ประส�ทหล�ยขัว้ (mutipolar neuron)
ภ�พท่ี 15 เซลล์ประส�ทจำ�แนกต�มโครงสร�้งท่ีม� :http://computer.act.ac.th/ webproject5 _2 5 4 8 /st/m5 1 /Nervous/typeofneuron.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
22
เซลล์ประส�ทจำ�แนกต�ม หน้�ท่ีได้ 3 ชนิด
1. Sensory neuron (เซลล์ประส�ทรบัคว�มรูส้กึ)2. Motor neuron (เซลล์ประส�ทสัง่ก�ร)3. Assosiation neuron (เซลล์ประส�ทประส�นง�น)
ภ�พท่ี 16 เซลล์ประส�ทจำ�แนกต�มหน้�ท่ีท่ีม� : http://mulinet6.li.mahidol.ac.th/cd-rom/cd-rom0311t/ch1/chapter1/part_3.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
23
ภ�พท่ี 17 มดัของเซลล์ประส�ทท่ีม�: http://en.wikipedia.org/wiki/Image:Central_nervous_system.svg
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
24
ภ�พท่ี 18 ก�รเคล่ือนท่ีของสญัญ�ณประส�ทผ่�น Synapseท่ีม�:http://fukidbionote.blogspot.com/2008/03/nerve-system.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
25
ภ�พท่ี 19 ส�รสื่อประส�ทผ่�นชอ่งไชแนปส์ท่ีม� :http://fukidbionote.blogspot.com/2008/03/nerve-system.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
26
ก�ร synapse ระหว�่งเซลล์ประส�ทรบัคว�มรูส้กึ เซลล์ประส�ทประส�นง�น และเซลล์ประส�ทสัง่
ก�ร
อ้�งอิงภ�พท่ี 16 เซลล์ประส�ทจำ�แนกต�มหน้�ท่ีท่ีม� : http://mulinet6.li.mahidol.ac.th/cd-rom/cd-rom0311t/ch1/chapter1/part_3.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
27
ภ�พท่ี 20 ก�รำ�ง�นของเซลล์ประส�ทสัง่ก�รท่ีม� :http://computer.act.ac.th/webproject5 _2 5 4 8 /st/m5 1 /Nervous/Nakpump.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
28
เรื่อง การทำางานของเซลล์ประสาท
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
29
ภ�พท่ี 21 ก�รเคล่ือนท่ีของกระแสประส�ทของใยประส�ทท่ีไมม่เียื่อ myelin sheathท่ีม� :http://fukidbionote.blogspot.com/2008/03/nerve-system.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
30
ภ�พท่ี 22 ก�รเคล่ือนท่ีของกระประส�ทผ่�นเซลล์ประส�ทท่ีมเียื่อไมอีลินหุม้ท่ีม� : http://fukidbionote.blogspot.com/2008/03/nerve-system.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
31
ภ�พท่ี 23 ทิศท�งก�รเคล่ือนท่ีของกระแสประส�ทท่ีม� :http://mulinet6.li.mahidol.ac.th/cd-rom/cd-rom0311t/ch1/chapter1/part_3.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
32
ภ�พท่ี 24 ก�รเปล่ียนแปลงศักยไ์ฟฟ�้ ขณะท่ีเซลล์ประส�ทถกูกระตุ้นท่ีม� : http://fukidbionote.blogspot.com/2008/03/nerve-system.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
33
การเกิดกระแสประสาท
1 . เซลล์ประส�ทขณะพกั (reating neuron ) คว�มต่�งศักยภ์�ยในและภ�ยนอกเซลล์ขณะพกัซึ่งเรยีกว่� resting potential มค่ี� ประม�ณ 60 มลิลิโวลต์
2. เซลล์ประส�ทขณะมกี�รขนสง่ กระแสประส�ท เมื่อถกูกระตุ้น เกิดภ�วะก�รณ์กลับขัว้ขึ้น depolarization และรยีกว�่ คว�มต่�งศักยไ์ฟฟ�้ท่ีเปล่ียนไปนี้ว่� Action potential
3. เซลล์ประส�ทขณะหยุดก�รขนสง่ กระแสประส�ท หลังจ�กเกิดก�รกลับขัว้ (depolarization ) คว�มต่�งศักยไ์ฟฟ�้จะลดลงจนกลับม�เป็น 60
มลิลิโวลต์ เหมอืนในขณะพกัเรยีกว่�มกี�รเกิดคืนขัว้ (Repolarization )
ทำ�ใหศั้กยไ์ฟฟ�้มค่ี�เท่�กับ Resting potential เหมอืนเดิม
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
34
เรื่อง ศูนยก์ารควบคมุการทำางานของระบบประสาท
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
35
ระบบประสาทของสตัวม์กีระดกูสนัหลัง
• ระบบประสาทสว่นกลาง (CNS) ประกอบด้วย สมอง และ ไขสนัหลัง ทำาหน้าท่ีควบคมุการทำางานของอวยัวะภายนอก เชน่ แขน ขา กล้ามเนื้อ กระดกู
• ระบบเสน้ประสาทรอบนอก (Peripheral Nervous System; PNS) ประกอบด้วย– เสน้ประสาทท่ีออกจากสมอง (cranial nerve) – เสน้ประสาทท่ีออกจากไขสนัหลัง (spinal
nerve)
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
36
• Cranial nerves – ในคนม ี12 คู่
– ในกบม ี10 คู่
• Spinal nerves – ในคนม ี31 คู่ – ในกบม ี9-10
คู่ภ�พท่ี 25 สมองและไขสนัหลังของมนุษย์ท่ีม� : http://www.fotosearch.com/LIF1 4 5 /pdb01010/
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
37
• สมองสว่นหน้า (Forebrain)
• สมองสว่นกลาง (Midbrain)
• สมองสว่นท้าย (Hindbrain)
ภ�พท่ี 26 สมองท่ีม� : http://www.fotosearch.com/LIF1 4 5 /pdb01010/
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
38
ภ�พท่ี 27 โครงสร�้งของสมองท่ีม� : http://www.emc.maricopa.edu/faculty/ farabee/BIOBK/ BioBookNERV. html#Nervous%2 0 Systems
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
39
ภ�พท่ี28 บรเิวณสว่นสว่นต่�งๆ ในสมองท่ีม� :http://www.emc.maricopa.edu/faculty/farabee/BIOBK/BioBookNERV.html#Nervous%20Systems
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
40
สมองสว่นหน้า (Forebrain)
• อีกชื่อหนึ่งคือ โปรเซนเซฟาลอน (Prosencephalon)• แบง่ได้เป็น 3 สว่นหลัก–ซรีบีรมั (Cerebrum)–ธาลามสั (Thalamus)–ไฮโปธาลามสั (Hypothalamus)
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
41
ซรีบีรมั (Cerebrum)• เรยีกอีกชื่อหนึ่งวา่ เทเลนเซฟาลอน
(Telencephalon)• เป็นสมองสว่นท่ีใหญ่ท่ีสดุ• ประกอบด้วย 2 ซกี (hemispheres) ซา้ย & ขวา• หน้าท่ี: ความจำา การเรยีนรู ้การใชเ้หตผุล การพูด
ศูนยก์ลางการรบัรูก้ารมองเห็น การได้ยนิ กลิ่น รส
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
42
ธาลามสั (Thalamus)• เรยีกอีกชื่อหนึ่งวา่ ทาลาเมนเซฟาลอน
(Thalamencephalon)• เป็นบรเิวณท่ีรวมกลุ่มของตัวเซลล์ประสาทและ
เนื้อเยื่อเก่ียวพนัท่ีเรยีกวา่นิวโรเกลีย (neuroglia) ทำาหน้าท่ีรบัสญัญาณประสาทจากหแูละตา แล้วสง่ต่อไปยงัซรีบีรมั
• เก่ียวขอ้งกับการต่ืนตัวของซรีบีรมั• มสีว่นรว่มในกระบวนการสรา้งความจำาและอารมณ์
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
43
ไฮโปธาลามสั (Hypothalamus)
• อยูถั่ดจาก thalamencephalon ลงมา• เป็นศูนยท่ี์ชว่ยรกัษาภาวะธำารงดลุของรา่งกาย โดยควบคมุ
การหิว การนอน การกระหายนำ้า อุณหภมูริา่งกาย และ สมดลุนำ้า
• ควบคมุการทำางานของต่อมใต้สมอง (pituitary gland)
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
44
สมองสว่นกลาง (Midbrain)• อีกชื่อหนึ่งคือ มเีซนเซฟ�ลอน (Mesencephalon)• มสีว่นท่ีพองออกเป็นกระเป�ะเรยีกว�่ ออพติกโลป
(Optic lobe) –ในสตัวเ์ล้ียงลกูด้วยนำ้�นม ถ่�ยทอดสญัญ�ณ
ประส�ทเก่ียวกับก�รมองเหน็และก�รได้ยนิ–ในปล� รบัคว�มรูส้กึจ�กเสน้ข�้งลำ�ตัว
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
45
สมองสว่นท้าย (Hindbrain)• เรยีกอีกชื่อหน่ึงว�่ รอมเบนเซฟ�ลอน
(Rhombencephalon)• ประกอบด้วย ซรีเีบลลัม (Cerebellum) และพอนส ์
(Pons) • ม ีเมดัลล�ออบลองก�ต� (Medulla oblongata) เป็นจุด
เชื่อมต่อระหว�่งสมองกับไขสนัหลัง
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
46
ซรีเีบลลัม (Cerebellum)• รบัสญัญ�ณขอ้มูลเก่ียวกับตำ�แหน่งของขอ้ต่อต่�งๆ
และขอ้มูลจ�กระบบรบัรูก้�รได้ยนิและก�รมองเหน็• ควบคมุและประส�นง�นเก่ียวกับก�รทำ�ง�นของกล้�ม
เนื้อ เพื่อควบคมุก�รเคล่ือนไหวและก�รทรงตัว• ก�รมแีอลกอฮอล์ในเลือดสงู มผีลต่อซรีเีบลลัม ทำ�ให้
ทรงตัวได้ไมด่ี
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
47
พอนส ์(Pons) • อยูท่างด้านหน้าของซรีเีบลลัม• ควบคมุการเค้ียวอาหาร การหลัง่นำ้าลาย การหายใจ
การฟงั และการถ่ายทอดความรูส้กึจากซรีบีรมัไปยงัซรีเีบลลัม
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
48
เมดัลลาออบลองกาตา (Medulla Oblongata)
• รูปรา่งคล้ายไขสนัหลัง• ควบคมุเก่ียวกับระบบประสาทอัตโนมติัหลาย
อยา่ง เชน่ การเต้นของหัวใจและการหมุนเวยีนของเลือด
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
49
ภ�พท่ี 29 แสดงสมองสว่นหน้� สว่นกล�งและสว่นท้�ยท่ีม� :http://www.fotosearch.com/LIF145/pdb01010
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
50
ภ�พท่ี 30 ตำ�แหน่งของเสน้ประส�ทมองของคน ท่ีม� : http://computer.act.ac.th/webproject5_2548/st/m51/Nervous/Brainstempic.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
51
ในสตัวเ์ลี้ยงลกูด้วย นม มเีสน้ประสาทสมอง 12 คู่ ทำาหน้าท่ี รบัความรูส้กึ (Sensory nerve )
ม ี 3 คู่ คู่ท่ี 128นำาคำาสัง่ (Motor nerve )
ม ี 5 คู่ คู่ท่ี 3 ,4,6,11,12ทำาหน้าท่ีผสม (Mix nerve) ม ี 4
คู่ คู่ท่ี 5,7,9,10
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
52
ภ�พท่ี 31 ก�รำ�ง�นของเสน้ประส�ทสมอง ท่ีม� :http://computer.act.ac.th/webproject5_2548/st/m51/Nervous/Brainstempic.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
53
• เป็นสว่นหนึ่งของระบบประสาทสว่นกลาง (CNS)
• อยูถั่ดจากเมดัลลาออบลองกาตาลงไปทางด้านล่าง
• อยูภ่ายในชอ่งของกระดกูสนัหลังตลอดแนวความยาวของลำาตัว
ภ�พท่ี 32 แสดงไขสนัหลัง (Spinal Cord)ท่ีม� :http://computer.act.ac.th/webproject5_2548/st/m51/Nervous/Brainstempic.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
54
หน้าท่ีของไขสนัหลัง• เป็นศูนยข์องการเคลื่อนไหวต่างๆ ท่ีตอบสนอง
การสมัผัสทางผิวหนัง• เป็นตัวเชื่อมระหวา่งอวยัวะรบัความรูส้กึ
(sensors หรอื receptors) กับกล้ามเน้ือหรอืตัวทำางาน (effectors)• เป็นทางผ่านไปกลับของกระแสประสาทระหวา่ง
ไขสนัหลัง กับสมอง
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
55
เสน้ประสาทไขสนัหลัง (Spinal nerve)ในคนมท้ัีงหมด 31 คู่ เรยีกตามชื่อกระดกู คือ
เสน้ประสาทบรเิวณคอ (Cervical nerve ) 8 คู่เสน้ประสาทบรเิวณคอ (Thoracic nerve ) 12 คู่เสน้ประสาทบรเิวณเอว (Lumber nerve ) 5 คู่ เสน้ประสาทบรเิวณเกระเบนเหน็บ (Sacral nerve ) 5 คู่เสน้ประสาทบรเิวณก้นกบ (Coccygeal nerve ) 1 คู่
คู่น้ีจดัเป็นเสน้ประสาทแบบผสม (Mixed nerve ) ไขสนัหลังมเียื่อหุ้ม 3 ชัน้เหมอืนสมอง แต่เน้ือสขีาวอยูด้่านนอก เน้ือสเีทาอยูด้่านใน ตรงขา้มกับเนื้อสมอง
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
56
ภ�พท่ี 33 โครงสร�้งภ�คตัดขว�งของไขสนัหลังและบรเิวณต่�ง ท่ีม�: http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/d/dc/Medulla_spinalis_-_Section_-_English.svg
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
57
ภ�พท่ี 34 ก�รทำ�ง�นของเสน้ประส�ทไขสนัหลังและทิศท�งก�รเคล่ือนท่ี ของกระแสประส�ทเข�้และออกจ�กไขสนัหลัง ท่ีม� : http://www.mabot.com/brain/
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
58
เรื่อง การทำางานของระบบประสาท
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
59
ระบบประส�ท (Nervous system)
ระบบประส�ทสว่นกล�ง(Nervous system)
ระบบประส�ทรอบนอก(Nervous system)
สมอง(Brain)
ไขสนัหลัง(Spinal cord)
ประส�ทรบัคว�มรูส้กึ(sensory (afferent) division)
ประส�ทนำ�คำ�สัง่(Motor (afferent) division)
ประส�ทรบัคว�มรูส้กึโซม�ติก
(Somatic sensory neuron)
ประส�ทรบัคว�มรูส้กึจ�กอวยัวะภ�ยใน
(Visceral sensory neuron)
ระบบประส�ทอัตโนวติั(Automotic nervous system)
ระบบประส�ทโซม�ติก(Somatic nervous system)
ระบบประส�ทซมิพ�เทติก(Sympathetic division)
ระบบประส�ทพ�ร�ซมิพ�เทติก(Parasympathetic division)
แผนภาพท่ี 1 ระบบประสาท
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
60
ระบบประสาทโซมาติก
ระบบประสาทโซมาติก เป็นระบบประสาทท่ีตอบสนอง ต่อสิง่แวดล้อมภายนอก เซลล์ประสาทนำาคำาสัง่จะนำากระแสประสาท
ท่ีเป็นคำาสัง่จากสมองหรอืไขสนัหลังไปสูห่น่วยปฏิบติังาน ซึง่เป็นกล้ามเนื้อลาย
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
61
ระบบประสาทโซมาติก ทำาให้เกิดการตอบสนองท่ีอยูใ่ต้อำานาจ ของจติใจ ทกุชนิด ตลอดจน การตอบสนองแบบรเีฟลกซข์องกล้ามเน้ือลายภ�พท่ี 35 แสดงก�รตอบสนองของระบบประส�ท โซม�ติกและก�รตอบสนองแบบรเีฟลกซ์ ท่ีม� : - -http://mulinet6 .li.mahidol.ac.th/cd rom/cd
rom0 3 1 1 t/ch1 /chapter1 /part_3 .html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
62
Reflex Arc ของระบบประส�ทอำ�น�จจติใจ ประกอบด้วย
สิง่เร�้
หน่วยรบัคว�มรูส้กึ
เซลล์ประส�ทรบัคว�มรูส้กึ
เซลล์ประส�ทประส�นง�น
เซลล์ประส�ทนำ�คำ�สัง่
หน่วยปฏิบติัง�น ตัวอย�่งได้แก่ กล้�มเน้ือล�ย
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
63
Reflex คือ ก�รตอบสนองท่ีไมไ่ด้อยูใ่ต้อำ�น�จของจติใจ ท่ีมเีฉพ�ะต่อสิง่เร�้บ�งชนิด
Reflex Arc ของระบบประส�ทนอกอำ�น�จจติใจ ประกอบด้วย
สิง่เร�้
หน่วยรบัคว�มรูส้กึ
เซลล์ประส�ทรบัคว�มรูส้กึ
เซลล์ประส�ทนำ�คำ�สัง่ตัวท่ี 1
เซลล์ประส�ทนำ�คำ�สัง่ตัวท่ี 2
หน่วยปฏิบติัง�น
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
64
ระบบประสาทอัตโนวติั (Autonomic Nervous
System)• เป็นสว่นหน่ึงของระบบเสน้ประส�ทรอบนอก (PNS)• อยูน่อกเหนือก�รควบคมุของจติใจ• ทำ�หน้�ท่ีคอยควบคมุอวยัวะภ�ยในใหท้ำ�ง�นได้ด้วยตนเอง• แบง่เป็น 2 ฝ่�ย – เสน้ประส�ทซมิพ�เทติก (Sympathetic nerve)– เสน้ประส�ทพ�ร�ซมิพ�เทติก (Parasympathetic
nerve)
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
65
• อวยัวะภ�ยในแต่ละชนิดมเีสน้ประส�ทจ�กทัง้ระบบประส�ท ซมิพ�เทติกและพ�ร�ซมิพ�เทติก
• ทัง้สองระบบทำ�หน้�ท่ีตรงข�้มกันเสมอ เชน่–Sympathetic กระตุ้นหวัใจใหเ้ต้นเรว็–Parasympathetic ลดอัตร�ก�รเต้นของ
หวัใจ–Sympathetic ทำ�ใหม้�่นต�ขย�ย–Parasympathetic ทำ�ใหม้�่นต�หรี่–Sympathetic ทำ�ใหเ้หง่ือออกม�ก–Parasympathetic ทำ�ใหเ้หง่ือออกน้อย
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
66
ภ�พท่ี 36 ก�รทำ�ง�นของระบบประส�ท Sympathetic และParasympatheticท่ีม� : http://users.rcn.com/jkimball.ma.ultranet/BiologyPages/P/PNS.html
ระบบประส�ท Sympathetic และParasympathetic
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
67
ต�ร�งท่ี 1 ต�ร�งเปรยีบเทียบก�รทำ�ง�นของประส�ท Somatic (SNS ) กับระบบประส�ทAutonomic (ANS)
ตารางเปรยีบเทียบการทำางานของระบบประสาทโซมาติก(SNS)
กับระบบประสาทอัตโนวติั (ANS)ขอ้เปรยีบเทียบ SNS ANS
1. ศูนยค์วบคมุก�รทำ�ง�น
อยูท่ี่สมองและ ไขสนัหลัง ควบคมุ
โดยตรง
สมอง ไขสนัหลังและปมประส�ท
2. ประส�ทสัง่ก�รหรอืนำ�คำ�สัง่
1 เซลล์ 2 เซลล์
3. ส�รสื่อประส�ท ณ บรเิวณไซแนปส์
แอซติิลโคลีนม�กกว�่นอรเ์อพเินฟรนิ
แอซติิลโคลีน หรอืนอรเ์อพเินฟรนิ
4. ควบคมุก�รทำ�ง�น
ควบคมุกล้�มเนื้อล�ย
ควบคมุกล้�มเนื้อเรยีบและกล้�มเนื้อหวัใจ
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
68
อวยัวะ ประสาทซมิพาเทติก(sympathetic
nerve)
ประสาทพาราซมิพาเทติก(parasympathetic
nerve)ต่อมเหง่ือ
บบีตัวใหเ้หง่ือออก ต่อมขย�ยตัวเหง่ือออกน้อย
ต่อมนำ้�ต�
กระตุ้นใหห้ลัง่นำ้�ต�ม�กกว�่ปกติ
กระตุ้นใหห้ลัง่ปกติ
หวัใจ เพิม่อัตร�ก�รสบูฉีด ลดอัตร�ก�รสบูฉีดกระเพ�ะลำ�ไส้
หยุดก�รเคล่ือนไหว และก�รสร�้งนำ้�ยอ่ยกระตุ้นก�รบบีตัวของกล้�มเนื้อหรููด
กระตุ้นก�รเคล่ือนไหว และก�รสร�้งนำ้�ยอ่ยกระตุ้นก�รคล�ยตัวของกล้�มเนื้อหรููด
ตับ กระตุ้นก�รสล�ยตัวของไกลโคเจน
ต�ร�งท่ี 2 ต�ร�งเปรยีบเทียบระบบประส�ท Sympathetic กับระบบประส�ท Para Sympathetic
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
69
ต�ร�งท่ี 2 (ต่อ) ต�ร�งเปรยีบเทียบระบบประส�ท Sympathetic กับระบบประส�ทParasympathetic
อวยัวะ ประสาทซมิพาเทติก(Sympathetic
Nerve)
ประสาทพาราซมิพาเทติก(Parasympathetic
Nerve)ถงุนำ้�ดี ห�้มก�รหลัง่นำ้�ดี กระตุ้นก�รหลัง่นำ้�ดีตับอ่อน ห�้มก�รหลัง่ของนำ้�
ยอ่ย และฮอรโ์มนจ�กตับอ่อน
กระตุ้นก�รหลัง่ของนำ้�ยอ่ยและฮอรโ์มน
กระเพ�ะปัสส�วะ
ห�้มปัสส�วะ กระตุ้นปัสส�วะ
กล้�มเนื้อม�่นต�
ม�่นต�ขย�ย ม�่นต�หรี่
กล้�มเนื้อบงัคับเลนสต์�
บบีตัวเมื่อมองใกล้ คล�ยตัวเมื่อมองไกล
กล้�มเนื้อโคนขน
ขนลกุตัง้ชนั ขนเอนนอนลง
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
70
ต�ร�งท่ี 3 ต�ร�งเปรยีบเทียบระบบประส�ทซมิพ�เทติกกับระบบประส�ทพ�ร�ซมิพ�เทติก
ขอ้เปรยีบเทียบระบบประสาทซมิพา
เทติกระบบประสาทพารา
ซมิพาเทติก1. ศูนยก์ล�งก�รสัง่ง�น อยูท่ี่ไขสนัหลัง อยูท่ี่สมองและ
ไขสนัหลัง2. เซลล์ประส�ทนำ�คำ�สัง่ 2 เซลล์ 2 เซลล์
3. เซลล์ประส�ทก่อนไซแนปส์
สัน้ ย�ว
4 . เซลล์ประส�ทหลังไซแนปส์
ย�ว สัน้
5 . ท่ีพบกันระหว่�งเซลล์ประส�ทก่อนไซแนปสแ์ละหลังไซแนปส์
ท่ีปมประส�ทอัตโนวติัหรอืปมในชอ่ง
ท่ีปมในอวยัวะภ�ยใน
6. ส�รสื่อประส�ทจ�กเซลล์ประส�ทนำ�คำ�สัง่ท่ีออกจ�กไขสนัหลังไปยงัปมประส�ท
มแีอซติิลโคลีนม�กกว�่
มแีอซติิลโคลีนน้อยกว�่
7. ส�รสื่อประส�ทจ�กเซลล์ประส�ทนำ�คำ�สัง่ท่ีออกจ�กปมประส�ท
นอรเ์อพเินฟรนิ แอซติิลโคลีน
8. เซลล์ประส�ทประส�นง�น ไมม่ี ไมม่ี9. ก�รทำ�กิจกรรม กิจกรรมก�รต่อสู้
หรอืหนีศัตรูกิจกรรมต�มปกติ
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
71
เรื่อง อวยัวะรบัสมัผัส (ตา)
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
72
อวยัวะรบัความรูส้กึ (Sense Organs)
อวยัวะรบัความรูส้กึ (Sense Organs) บางครัง้อาจเรยีกวา่รเีซพเตอร ์ (Receptors)
แบง่เป็น 5 ชนิด1 .อวยัวะรบัความรูส้กึท่ีเก่ียวกับการมองเห็น2. อวยัวะรบัความรูส้กึท่ีเก่ียวกับการได้ยนิและการทรงตัว3. อวยัวะรบัความรูส้กึเก่ียวกับการได้รบักลิ่น4. อวยัวะรบัความรูส้กึเก่ียวกับการรบัรส5. อวยัวะรบัความรูส้กึเก่ียวกับการสมัผัส
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
73
อวยัวะรบัความรูส้กึท่ีเก่ียวกับการมองเห็น
• ตา (eyes) เป็นอวยัวะรบัความรูส้กึท่ีเก่ียวกับการมองเห็น• สตัวช์ัน้ตำ่ารบัแสงได้แต่รบัภาพไมไ่ด้• สตัวช์ัน้สงูรบัภาพได้เพราะมท้ัีงเลนสแ์ละเรตินา (retina)• เลนส ์คอรเ์นีย และของเหลวในลกูตา ชว่ยโฟกัส
แสงให้ ตกท่ีเรตินา• รูมา่นตา (pupil) ทำาหน้าท่ีควบคมุปรมิาณแสง
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
74
โครงสรา้งและสว่นประกอบของตา
ภ�พที่ 37 แสดงโครงสร�้งและสว่นประกอบของต�ท่ีม� :http://kidshealth.org/kid/htbw/eyes.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
75
เซลล์รบัแสงบนเรตินา• ม ี2 ชนิด คือ rod cells และ cone cells
ภ�พท่ี 38 เซลล์รบัแสงบนเรติน�ท่ีม� :http://www.fotosearch.com/LIF1 4 5 /pdb0 1 010/
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
76
ภ�พท่ี 39 แสดงตำ�แหน่งของเรติน�และเซลล์รบัแสงในต�มนุษย์ท่ีม� :http://kidshealth.org/kid/htbw/eyes.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
77
เซลล์รบัแสงบนเรตินา• Rod Cells เป็นเซลล์รูปแท่งทรงกระบอก เป็นเซลล์
ท่ีรบัรูค้วามสวา่ง (ภาพขาว-ดำา ) สามารถรบัแสงได้แม้ในท่ีสลัว
• Cone Cells เป็นเซลล์รูปกรวย รบัรูส้ ีทำางานได้เฉพาะเวลามแีสงสวา่งมากๆ
• ในตาคนม ีRod cells มากกวา่ Cone Cells ประมาณ 4 เท่า
• สตัวท่ี์หากินกลางคืนจะมสีดัสว่น Rod Cells ต่อ Cone Cells ท่ีมากกวา่น้ี
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
78
การรบัรูภ้าพ• ท่ีสว่นนอกของ Rods และ Cones มถีงุบรรจุ
รงควตัถท่ีุใชใ้นการมองเห็น มชีื่อวา่โรดอปซนิ (Rhodopsin)
• Rhodopsin = Opsin (Protein) + Retinal (Pigment)
• เมื่อ Rhodopsin ดดูกลืนแสง จะเกิดการแตกตัวและปลดปล่อย Opsin ออกมา
• Opsin ทำาให้เกิดชุดปฏิกิรยิาท่ีสง่ผลให้เกิดการปิด ion channels และเกิดสญัญาณประสาท
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
79
ความผิดปกติของการมองเห็นและการแก้ไข
1. สายตาสัน้ (Myopia )
กระบอกตายาว แสงจากวตัถตุกไมถึ่งเรตินา แก้ไขโดยใชแ้วน่เลนสเ์วา้
ภ�พท่ี 40 แสดงก�รเกิดส�ยต�สัน้ท่ีม� :http://kidshealth.org/kid/htbw/eyes.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
80
2. ส�ยต�ย�ว (Hyperopia)
กระบอกตาสัน้ แสงจากวตัถตุกเลยเรตินา แก้ไขโดยใชแ้วน่เลนสน์ูน
ภ�พท่ี 41 แสดงก�รเกิดส�ยต�ย�วท่ีม� : http://members.tripod.com/hata_ray/abnormal.htm#S1
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
81
3 สายตาเอียง (Astigmatism)
เกิดจากผิวของกระจกตาหรอืเลนสต์าไมส่มำ่าเสมอ แสงจากวตัถจุะหักเห ไมเ่ป็นภาพชดั แก้ไขโดยใชเ้ลนสท์รงกระบอก
ภ�พท่ี 42 แสดงก�รเกิดส�ยต�เอียงท่ีม� : http://members.tripod.com/hata_ray/abnormal.htm#S1
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
82
4. ตาบอดส ี(Color blindness) เกิดจากเซลล์รูปกรวย สใีด สหีนึ่ง เสยี หรอืทำางานไมไ่ด้ ถ่ายทอด
ได้ทางพนัธุกรรม
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
83
เรื่อง อวยัวะรบัสมัผัส ( หู จมูก ลิ้น ผิวหนัง)
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
84
อวยัวะรบัความรูส้กึเกี่ยวกับการได้ยนิและการทรงตัว
• โครงสร�้งท่ีทำ�หน้�ท่ีรบัเสยีงคือ Hair Cells บน Basilar Membrane ซึ่งเป็นสว่นประกอบของ Organ of Corti
• Organ of Corti อยูใ่น Cochlear Duct ของหชูัน้ใน เมื่อ Basilar Membrane เกิดก�รสัน่จะทำ�ให ้hair Cells บดิตัว ทำ�ใหเ้กิดสญัญ�ณประส�ทซึ่งจะสง่ไปยงัสมอง ผ่�นท�ง Auditory Nerve
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
85
ภ�พท่ี 43 (a) โครงสร�้งของห ู (b) และ(c) Cochlear และ Organ of Cortti (d) Hair cells และ Auditory nerveท่ีม� :http://www.fotosearch.com/LIF1 4 5 /pdb0 1 0 1 0 /
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
86
การรบัรูก้ารทรงตัว• อวยัวะรบัคว�มรูส้กึเก่ียวกับก�รทรงตัวประกอบ
ด้วยหลอดครึง่วงกลม 3 วง (เรยีกว�่ Semicircular Canals)• ภ�ยใน Semicircular Canals มขีองเหลวชื่อ
Endolymph และโครงสร�้งชื่อ Ampulla• ใน Ampulla มเีซลล์รบัรูก้�รเปล่ียนแปลงชื่อ Hair
Cells ซึ่งม ีStereocilia ฝังตัวอยูใ่น Cupula • เมื่อเร�เอียงตัว Endolymph ไหลชนกับ Cupula
ทำ�ให ้Hair Cells รบัรูทิ้ศท�งก�รเคล่ือนไหว
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
87
ภ�พท่ี 44 แสดงก�รเดินท�งของกระแสประส�ทภ�ยในหูท่ีม� :http://www.fotosearch.com/LIF145 01010/pdb /
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
88
อวยัวะรบัความรูส้กึทางเคม ี(Chemoreceptor)
• เป็นระบบรบัคว�มรูส้กึที่จดัได้ว่�โบร�ณที่สดุ เพร�ะพบในสตัวช์ัน้ตำ่�หล�ยชนิด
• แบง่ยอ่ยเป็น 2 กลุ่มคือ–อวยัวะรบัรส คือ ต่อมรบัรส (Taste buds) ท่ีล้ิน–อวยัวะรบักล่ิน คือ เซลล์รบัรูก้ลิ่น (Olfactory
cells) ในโพรงจมูก
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
89
การรบัรูร้ส• เซลล์รบัรส (Taste Cells) อยูใ่นต่อมรบัรส
(Taste Buds)• ท่ีไมโครวลิไลของเซลล์รบัรสมโีปรตีนท่ีทำ�หน้�ที่
เป็นตัวรบั (Receptor) เพื่อจบักับโมเลกลุต่�งๆ ซึ่งสมองรบัรูว้�่เป็นรสหว�น ขม เปรีย้ว และเค็ม
• คว�มเผ็ดไมใ่ชร่ส แต่เป็นก�รระค�ยเคืองท่ีเกิดกับเซลล์ของต่อมรบัรส
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
90
การสง่สญัญาณโดย Taste Receptor
ภ�พท่ี 45 แสดงก�รทำ�ง�นของเซลล์รบัรสท่ีม� :http://www.fotosearch.com/LIF1 4 5 /pdb0 1 0 1 0 /
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
91
การสง่สญัญาณโดย Taste Receptor
1. โมเลกลุส�รเคมจีบักับเซลล์รบัรสในต่อมรบัรส2. สญัญ�ณประส�ทถกูถ่�ยทอดและขย�ยโดยก�ร
ทำ�ง�นของ Signal Transduction Pathway 3. สญัญ�ณจ�กขอ้ (2) ทำ�ให ้K+ Channel ปิด4. Na+ แพรเ่ข�้สูเ่ซลล์ ทำ�ใหเ้กิด Depolarization 5. Action Potential ทำ�ใหม้กี�รนำ� Ca2+ เข�้สูเ่ซลล์6. คว�มเขม้ขน้ของ Ca2+ ท่ีเพิม่ขึ้นทำ�ใหม้กี�รหลัง่ส�ร
สื่อประส�ท
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
92
ภ�พท่ี 46 แสดงบรเิวณรบัรสบนล้ินท่ีม� :http://mulinet6.li.mahidol.ac.th/cd-rom/cd-rom0311t/ch1/chapter1/part_3.html
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
93
อวยัวะรบัความรูส้กึเกี่ยวกับการดมกลิ่น
• จมูกแบง่ออกเป็น 3 บรเิวณ• 1 รูจมูกและโพรงจมูกสว่นนอก ( Nostril )• 2 ท�งเดินลมห�ยใจ ( Respiration )• 3 บรเิวณรบักล่ิน ( Olfactory Region
)
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
94
การรบัรูก้ลิ่น• เยื่อบุผิวท่ีเก่ียวกับก�รรบักล่ิน (Olfactory
Epithelium) ประกอบด้วยเซลล์รบักลิ่น (Olfactory Cells)
• บนซเีลีย (Cilia) ของเซลล์รบักลิ่นมโีปรตีนท่ีทำ�หน้�ท่ีเป็นตัวรบั (Receptor) เพื่อจบักับโมเลกลุต่�งๆ ซึ่งสมองรบัรูว้่�เป็นกลิ่นต่�งๆ
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
95
ภ�พท่ี 47 แสดงโครงสร�้งของจมูกท่ีม� : http://www.chiangyuen.ac.th/chiang/cai/nervous/nervous/smell.htm
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
96
การรบัรูก้ลิ่น
• เยื่อบุผิวท่ีเก่ียวกับก�รรบักล่ิน (Olfactory Epithelium) ประกอบด้วยเซลล์รบักลิ่น (Olfactory Cells)
• บนซเีลีย (Cilia) ของเซลล์รบักลิ่นมโีปรตีนท่ีทำ�หน้�ท่ีเป็นตัวรบั (Receptor) เพื่อจบักับโมเลกลุต่�งๆ ซึ่งสมองรบัรูว้่�เป็นกล่ินต่�งๆ
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
97
การรบัรูก้ลิ่น
ภ�พท่ี 48 แสดงโครงสร�้งภ�ยในของจมูกท่ีม� :http://www.fotosearch.com/LIF145 01010/pdb /
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
98
อวยัวะรบัความรูส้กึเกี่ยวกับการรบัสมัผัส
ภ�พท่ี 49 แสดงโครงสร�้งของผิวหนังท่ีม� :http://www.enchantedlearning.com/subjects/anatomy/skin/
สื่อบทเรยีนคอมพเิตอรช์ว่ยสอนประกอบคำ�บรรย�ย
99
ผิวหนัง ประกอบด้วยเนื้อเยื่อ 2 ชัน้ ชัน้บน (Epidermis ) ประกอบด้วยชัน้หนังกำ�พร�้ และหนังแท้และชัน้ล่�ง (Desmis ) ซึ่งจะมเีสน้ประส�ทต่�งๆ กระจ�ยอยู ่เชน่ ปล�ยประส�ทรบัคว�มรูส้กึเจบ็ปวด ปล�ยประส�ทรบัคว�มรูส้กึ รอ้น –หน�ว ปล�ยประส�ทรบัคว�มรูส้กึรบัรูอุ้ณหภมูิ
ภ�พท่ี 50 แสดงเซลล์ประส�ทรบัคว�มรูส้กึในผิวหนังท่ีม� :http://www.enchantedlearning.com/subjects/anatomy/skin/